วันนี้ไปรับมะปรางที่ รร.แล้วก็พาไปสนามบิน เพื่อเดินทางเข้า กทม.ค่ะ(มะปรางมีสอบวันพรุ่งนี้)
ถึงดอนเมือง ประมาณ 19:00 น. ไปรับรถที่จองไว้กับ Hertz
วันนี้ไม่มีรถเล็กว่างเลยค่ะ จนท.เลยอัพเกรดให้เป็นรถใหญ่(ไม่ต้องเพิ่มเงินด้วยค่ะ...น่ารักมาก)
วันเสาร์ที่ 14 ก.ย.2556 เวลา 8:00 น.
เดินทางไปสนามสอบแข่งขันวิทยาศาสตร์ ที่ รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
มีเด็กระดับประถมศึกษามาแข่งขันมากมายจากทั่วประเทศ สอบเสร็จเวลาประมาณ 11:00 น.
ทานอาหารเสร็จก็ขับรถไปเที่ยว ตลาดน้ำขวัญเรียม ตลาดน้ำกลางกรุง
อยู่ริมคลองแสนแสบเชื่อมสองฝั่ง วัดบำเพ็ญเหนือเสรีไทย 60 - วัดบางเพ็งใต้รามคำแหง 187 
เลี้ยวเข้าไปในซอยรามคำแหง 187 มีทางบอกไปที่จอดรถของตลาดน้ำ
พอจอดรถเสร็จก็มีบริการรถรับ-ส่งถึงหน้าตลาดน้ำ ฟรีเลยค่ะ
เป็นตลาดในร่มขนาดใหญ่ มีหลังคาคลุมป้องกันแดดฝนเป็นอย่างดี
ด้านในมีขนมและอาหารขายเต็มไปหมด น่าทานทุกอย่างเลยค่ะ
เดินเข้าไปด้านในจะพบกับวัดบางเพ็งใต้ อยู่ติดคลองแสนแสบ
ศาล ขวัญ-เรียม (เรื่องแผลเก่า) อยู่ริมคลองแสนแสบ
สะพานเรือ แห่งเดียวในโลก
จัดตกแต่งสถานที่สวยดีค่ะ สะอาดด้วย
อีกฝั่งคลองก็เป็นตลาดน้ำเดียวกันค่ะ เห็นวัดบำเพ็ญเหนืออยู่อีกฝั่งคลอง
น้ำในคลองแสนแสบสะอาด ไม่เหม็นเลยค่ะ
เดินเล่น แวะทานไอศกรีมเสร็จ ก็ข้ามกลับมาให้อาหารม้าแคระ
มีของเล่นขายเยอะมาก...เด็กอยากได้
เวลา 14:00 น. ออกเดินทางไปอัมพวากันค่ะ ฝนตกปรอยๆทั้งวัน แต่เราออกก่อนเลิกงาน รถยังไม่มาก
ระยะทางประมาณ 70 กม.จาก กทม.
ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถ.พระราม 2) แยกซ้ายเข้าตัวจังหวัดสมุทรสงครามที่กิโลเมตร 64 แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) ระยะทางประมาณ 6 ก.ม. แยกซ้ายเข้าตลาดน้ำอัมพวา ที่แยกไฟแดงอัมพวา ประมาณ 1 ก.ม. เลี้ยวขวา เข้าซอยโรงเจซำเป้า 300 เมตร
ถึงแล้วค่ะ.. คุณป๋าพาอ้อมมาเข้าทางด้านหลังตลาด วันนี้วันเสาร์คนเยอะมาก หลีกเลี่ยงรถนำเที่ยว
แม่ตุ๊กจองที่พักไว้ในตลาดน้ำเลยค่ะ มีที่จอดรถด้านหลังที่พักสะดวกสบายมาก
ฐณิชาฌ์ เฮลท์ตี้ รีสอร์ท -รีสอร์ทบรรยากาศอบอุ่น ณ จุดชมวิวที่สวยที่สุด ริมคลองอัมพวา
อยู่ปลายสุดของทางเดินริมตลาดน้ำอัมพวา เป็นบูทิครีสอร์ท สไตล์ Thai Contemporary
มีเพียงแค่ 25 ห้องเท่านั้นค่ะ
ห้องดีลักซ์ ยอดมะพร้าว หนึ่งเดียวในอัมพวา
ห้องพักขนาด 22 ตารางเมตร บนจุดสูงสุดของอาคาร พร้อมห้องนั่งเล่นใต้หลังคา
สามารถมองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของอัมพวาจากระดับความสูงเดียวกับยอดมะพร้าว
ห้องดีลักซ์ เรือนไม้ ห้องพักสุดโรแมนติกขนาด 23 ตารางเมตรในเรือนไม้โบราณ ที่ถูกตกแต่งใหม่
ให้ดูอบอุ่นแบบไทย แต่แฝงความสะดวกสบายแบบสากล ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ให้ดูอบอุ่นแบบไทย แต่แฝงความสะดวกสบายแบบสากล ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
พร้อมความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยหน้าต่างติดบ่อปลา
แม่ตุ๊กจองล่วงหน้า 1 เดือน ได้ห้องตลาดน้ำอัมพวา 101 (คืนละ 2000 บ.)
ห้องสวย สะอาดมาก
มีบ่อปลาคาร์พ อยู่ข้างที่นอนเลยค่ะ สดชื่นมาก
เรือนไม้อบอุ่น มีหนังสือให้อ่านเล่น 1 กอง(ใหญ่ๆ) และยังมีผ้าถุงกับผ้าขาวม้าไว้ให้ใช้ด้วยค่ะ
ขนม-น้ำดื่ม พร้อม
ห้องน้ำและอุปกรณ์ครบค่ะ
ในเรือนไม้นี้จะมีห้องพักอยู่แค่ 2 ห้องนะคะ อยู่ติดล็อบบี้ด้านหน้า...ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ
เก็บของ นอนพักสักนิดก็ออกมานั่งเล่นบริเวณล็อบบี้ซึ่งตกแต่งด้วยของเก่าทั้งนั้นเลยค่ะ
ก้าวพ้นประตูรีสอร์ทก็เป็นทางเดินเล่นริมตลาดน้ำแล้วค่ะ
บรรยากาศ แสนอบอุ่นในเรือนแถวไม้อายุกว่า 100 ปี ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นหนึ่งใน
UNESCO Asia - Pacific Heritage 2008 พร้อมห้องอาหาร คอฟฟี่ ช็อป กับมุมนั่งเล่นริมน้ำ
แผนที่ตลาดน้ำอัมพวา
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2547 ทางเทศบาลตำบลอัมพวา โดยความร่วมมือของประชาชนในท้องถิ่น
ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ
โดยใช้ชื่อว่า "ตลาดน้ำยามเย็น" ซึ่งในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจะรู้จักในนามของ "ตลาดน้ำอัมพวา"
จะมีทุกวันศุกร-เสาร์-อาทิตย์-วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่หยุดต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 13.00-22.00 น.
ในตอนเย็นชาวบ้านจะพายเรือนำสินค้าหลากหลายชนิด เช่น อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกิน
มาขายให้กับนักท่องเที่ยวและคนทั่วไป สามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวาเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเย็นไปจนถึงเวลาค่ำ
มีที่พักให้เลือกมากมาย
หากมาเที่ยวกันในช่วงวันธรรมดาจะเห็นตลาดอัมพวาที่มีสินค้าและอาหารขายเพียงแค่ในตลาดเท่านั้นเป็นบรรยากาศของอัมพวาที่เงียบสงบ
แวะเข้าไปชมของในร้านนี้ค่ะ
จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวหลากหลายรูปแบบ ทั้งของใช้และของตกแต่งบ้าน
มีการออกแบบที่แปลกใหม่ เน้นความคิดสร้างสรรค์
มะปรางชอบการสานใบมะพร้าวยืนดูแล้วก็ซื้อกลับมาด้วย ชิ้นละ 5 บาทเองค่ะ
ที่นี่มีงานจากเศษไม้และวัสดุท้องถิ่นรวมทั้งเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุธรรมชาติ
ตลาดน้ำจะอยู่ทั้ง 2 ฝั่งคลอง มีสะพานข้ามถึงกัน
มองจากบนสะพานจะเห็นความคึกคักของตลาดน้ำ
เดินเหนื่อยก็มีที่ให้นั่งพัก
หรือจะมานั่งฟังคนร้องเพลงก็ได้ค่ะ
ร้านอาหารเยอะมาก เลือกทานไม่ถูกเลยค่ะ แวะทานร้านที่คนน้อยหน่อยจะได้ไม่ต้องรอนาน
เจอ IRON MAN ด้วยค่ะ
แต่ละร้านก็มีธีมการตกแต่งสวยดีค่ะ
กลับมารีสอร์ท อาบน้ำ คืนนี้เราจะไปดูหิ่งห้อยกันค่ะ
ท่าเรือปรางทองอยู่ด้านข้างรีสอร์ท ไม่ต้องไปรอไกลเลยค่ะ ค่าบริการล่องเรือชมหิ่งห้อย คนละ 60 บ.
รอสักพักเรือก็มาเทียบท่า ลงเรือแล้วใส่เสื้อชูชีพด้วยนะคะเพื่อความปลอดภัย
ใช้เวลาในการล่องเรือ ประมาณ 1.30 ชม. เห็นหิ่งห้อยเยอะมาก อากาศเย็นสบาย
แต่ไม่สามารถถ่ายรูปหิ่งห้อยได้เลยสักรูป ท้องฟ้ามืดมาก
สถานที่ชมหิ่งห้อยที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน เช่นที่ริมคลองตลาดน้ำอัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
โดยมีมากในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม ควรเลือกชมในคืนเดือนมืด เพราะสามารถเห็นแสงของหิ่งห้อยได้อย่างชัดเจน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพเรื่องหิ่งห้อย จาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
วันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย. 2557
พนง.มาปลุกตั้งแต่ 05:30 น. เพื่อเตรียมตัวออกไปใส่บาตรตอน 06:00 น.
แปรงฟันเสร็จแล้วก็ออกมานั่งคอยที่ด้านหน้ารีสอร์ทเลยค่ะ
ตอนเช้าตลาดเงียบมาก
ทางรีสอร์ทเตรียมชุดใส่บาตรให้เราไว้ 3 ชุด(ชุดละ 50 บาท)
พระมาแล้วค่ะ
ร่วมกันใส่บาตรทั้งครอบครัว
พระท่านทยอยมาทีละรูป (เดินมาจากวัด)
ขึ้นไปชมวิว บนสะพานหน้ารีสอร์ท
วิวสวยมากๆ
มองจากบนสะพาน จะเห็นวัดอยู่ไม่ไกล
มีพระพายเรือบิณฑบาตรมาแล้วค่ะ รีบลงไปเตรียมตัวใส่บาตร
ทำบุญ-ตักบาตรเสร็จแล้วสบายใจมากค่ะ
วันนี้น้ำลงมาก ทำให้เดินลงไปใส่บาตรลำบากนิด
แม่ตุ๊กกับมะปรางขอเดินเล่นชมตลาดน้ำยามเช้าอีกสักครั้ง
ร้านปิดหมด เพราะตอนนี้ยังเช้าอยู่
สองแม่ลูกเดินเล่นได้ทุกมุม
เดินจนรอบตลาดทั้ง 2 ฝั่ง
กลับไปทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท
เป็นบุฟเฟต์รสชาติดีค่ะ
ทานอาหารเสร็จ นั่งเล่นพักผ่อนก่อนไปอาบน้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น