ก่อนเปิดเทอมคุณป๋าพาเที่ยว อ.บางกล่ำ ไปไหว้พระที่วัดเก่าแก่ของอำเภอกันค่ะ
วัดแรกคือ วัดบางหยี อยู่ห่างจาก อ.หาดใหญ่ประมาณ 20 กม. วัดนี้มีชื่อเสียงด้าน ประเพณีแข่งเรือยาวประจำปี โดยจะจัดทุกอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายน
ด้านในบริเวณวัดสะอาดดีค่ะ
ตรงกลางวัดมีอาคารไม้เก่าแก่สองชั้น
อาคารใต้ถุนสูง ทำจากไม้ทั้งหลังดูโบราณดีค่ะ
เสริมเสาปูนเพื่อความแข็งแรง
ใต้ถุนโล่ง มีเตียงไม้ให้นั่งเล่น
บันไดวนขึ้นไปชั้นสอง ไม่กล้าขึ้นค่ะ เพราะไม้เก่ามาก
เดินไปริมคลองกันต่อค่ะ
กุฏิพระเรียงรายริมน้ำ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่
คลองบางกล่ำ มีขนาดกว้าง น้ำค่อนข้างใสและสะอาด ทำให้นิยมจัดแข่งขันเรือพาย
ถือเป็นงานประเพณีที่ใหญ่และสำคัญของ จ.สงขลา จัดเป็นประจำทุกปี
ปลายปีจะมีการเปิดตลาดน้ำบางกล่ำ ที่ท่าน้ำวัดบางหยีแห่งนี้ค่ะ พวกเราเลยรีบมาเที่ยวก่อนที่คนจะมาก
สะพานข้ามคลองบางกล่ำ
เดินเลียบริมคลองไปเรื่อยๆ
สุดทางเดินจะเห็น ยอจับปลาอันใหญ่ อยู่กลางคลองเลยค่ะ
เดินย้อนออกมาด้านหน้าวัด จะพบกับหอระฆังเก่าแก่
หอระฆังนี้ตั้งอยู่ด้านข้างศาลาการเปรียญ
ด้านในศาลามีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แต่ประตูใส่กุญแจไว้เข้าไปไหว้พระไม่ได้ค่ะ
ขับรถออกจากวัดข้ามสะพานวัดบางหยี
มองกลับไปจะเห็นว่าเริ่มมีการก่อสร้างตลาดน้ำบางกล่ำอยู่ค่ะ กำหนดเปิดประมาณเดือนกันยายนปีนี้
จุดหมายต่อไปคือ วัดบางทึง เป็นวัดริมคลองบางกล่ำที่เก่าแก่ที่สุด อายุกว่า 200 ปี
ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของคลองบางกล่ำ
ด้านหลังนี้คือ หอระฆังวัดบางทึง
The Bell Tower of Wat Bang Thueng
หอระฆังตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารศาลาการเปรียญ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2475
ด้านล่างหอระฆังทำเป็นอาคารเครื่องก่อ มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาด 3*3 เมตร
เจาะผนังทั้งสี่ด้านทำเป็นซุ้มโค้ง บริเวณซุ้มโค้งด้านนอกตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น
ส่วนบนของหอระฆังตั้งโครงสร้างด้วยเสาไม้สี่ต้น ล้อมรอบด้วยผนังก่ออิฐถือปูนทั้งสี่ด้าน
หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา
พื้นชั้นบนเป็นพื้นไม้ที่เจาะช่องส่วนหนึ่งสำหรับวางบันไดพาดจากชั้นล่างขึ้นมา
ไปเดินริมคลองกันค่ะ
สะพานข้ามคลองสำหรับเดินเท้าและรถคันเล็กๆ
สองฝั่งคลองร่มรื่นด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม
ตอนนี้แดดร้อนมากค่ะ ควรมาเดินเล่นตอนเย็นๆจะดีที่สุด
คลองบางกล่ำนี้สะอาดมากๆไม่มีขยะในน้ำเลยค่ะ
เดินเข้าไปชมโบราณสถานด้านในวัดกันต่อค่ะ
บริเวณนี้เคยเป็น หอพระพุทธบาทจำลองวัดบางทึง
The Shrine of the Replica of Buddha's Footprint
สภาพปัจจุบันหลังคาชำรุด ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 3*5 เมตร
มีบันไดอยู่ทางทิศตะวันตก ผนังเสาและอาคารตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นสวยงาม
วัดบางทึง Wat Bang Thueng
ตั้งอยู่ริมคลองบางทึงและคลองบางกล่ำ เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2323
และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาใน พ.ศ.2444 เป็นตัวอย่างของวัดซึ่งสะท้อนการนับถือพุทธศาสนาของชุมชนตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นจนถึงปัจจุบัน
ซุ้มประตูกำแพงแก้วของอุโบสถทางทิศตะวันตกเป็นซุ้มประตูทรงจตุรมุขหลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา
หน้าจั่วตกแต่งปูนปั้นรูปครุฑและพันธุ์พฤกษา
ผนังซุ้มประตูตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมเก่าแก่ค่อนข้างเลือนลาง
อุโบสถวัดบางทึง : The Ordination Hall of Wat Bang Thueng
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัด เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีแผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 11*15 เมตร
อุโบสถล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วก่ออิฐถือปูน
โครงสร้างหลังคาเป็นเครื่องไม้มุงด้วยกระเบื้องดินเผา
ตรงนี้เป็นด้านหลังอุโบสถค่ะ ปิดประตูแน่นหนาเข้าไปชมด้านในไม่ได้
อุโบสถหันหน้าไปทางทิศตะวันตก มีประตูทางเข้าออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย เข้าไปชมไม่ได้เลยเดินเล่นถ่ายรูปรอบๆค่ะ
เจดีย์วัดบางทึง : The Stupa of Wat Bang Thueng
ตั้งอยู่ด้านหลังอุโบสถ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 24-25
ส่วนยอดเจดีย์ได้ชำรุดหักพังในปี พ.ศ.2547
เดินออกจากกำแพงแก้วไปด้านนอกกันค่ะ
มีศาลาริมน้ำเล็กๆด้วยค่ะ
ออกมามองอุโบสถด้านนอกจะเห็นว่าที่หน้าบันประดับด้วยปูนปั้นลายดอกไม้พันธุ์พฤกษา
ปัจจุบันได้ทำการบูรณะองค์เจดีย์ขึ้นใหม่ตามรูปแบบเดิมมีลักษณะเป็นเจดียืก่ออิฐถือปูน
ส่วนฐานยืดสูงประดับซุ้มจระนำรองรับส่วนบนที่ซ้อนด้วยชุดมาลัยเถาและองค์ระฆังกลม
ภายในซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น เจดีย์ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว
ในแผนผังรูปสี่เหลี่ยม 7*7 เมตร มีบันไดทางขึ้นด้านทิศตะวันตก
เดินชมโบราณสถานภายในวัดบางทึงจนครบก็กลับมาที่ศาลาการเปรียญด้านหน้าค่ะ
พวกเราชอบวัดนี้มากเลยนะคะ เพราะมีศิลปกรรมโบราณที่สวยงามหลงเหลืออยู่มาก แต่อยากให้มีการดูแลมากกว่านี้จะได้มีคนมาเที่ยวมากขึ้น
เดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟบางกล่ำ
พวกเราหาข้อมูลมาว่าถ้าเดินไปจากหลังสถานีรถไฟบางกล่ำจะพบกับสะพานแขวนไม้เก่าแก่
ข้ามคลองบางกล่ำ คนนิยมมาเดินเล่นกัน
เลยจอดรถไว้ที่สถานีแล้วลองเดินไปตามถนนดินแดงผ่านป่ายาง ก็พบว่าสะพานโดนรื้อไปแล้วเพราะจะทำสะพานใหม่แต่ยังไม่เสร็จ เสียดายมากๆค่ะ ถ้าสร้างเสร็จค่อยมาเที่ยวอีกครั้ง
