TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2561/10/02

2.Geilo เมืองเกียร์โลชมใบไม้เปลี่ยนสีกลางหุบเขา

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2561

เวลา 7:00 น.ตื่นเช้าอาบน้ำและมองวิวจากหน้าต่างห้องพัก เห็นใบไม้สีเหลืองสวยมาก แดดเริ่มออกแล้วเพราะช่วงนี้พระอาทิตย์ขึ้นเร็ว ลงไปทานอาหารเช้ากันเลยค่ะ

ทานอาหารเสร็จลงมาเดินเล่นรอบๆโรงแรม



ทางเดินข้างๆโรงแรม มีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นแนวยาว


อุณหภูมิเช้านี้ 12 องศา เย็นสบายมากค่ะ




ใบเมเปิลสีเหลือง



Norwegian Heritage

ใกล้จะ 9 นาฬิกาแล้ว ออกเดินทางกันค่ะ
 

เดินทางขึ้นไปทางเหนือจุดหมายคือเมืองเกียร์โล (Gielo) ระยะทางประมาณ 220 กม.

วิวสองข้างทางสวยสดชื่นค่ะ


มีฟยอร์ดอยู่ตลอดทาง




เริ่มมีการตัดเก็บทุ่งหญ้าเพื่อทำเป็นฟางไว้ใช้ในฤดูหนาว


สวนแอปเปิ้ล




โบสถ์ข้างทาง


วัวนมตัวใหญ่กว่าเมืองไทย




เวลา 11:00 น.แวะพักที่เมือง Flå มีศูนย์การค้าชื่อ Bjørneparken Shopping Mall


ห้างไม่ใหญ่แต่มีสินค้ามากมายหลายอย่าง


มีมุมน่ารักให้ถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ

หนังสัตว์แท้นุ่มมากๆค่ะ

กวางมูส (Moose) พบมากในป่าแถบนี้



ออกมาเดินเล่นรับแดดด้านนอก


ที่เมืองนี้มี Bear Park ด้วยค่ะ เพราะมีประชากรหมีจำนวนมาก

Brown Bear เป็นหมีที่พบแถวนอร์เวย์ ตัวมีขนาดใหญ่



ตัวโทรล (Troll) 
ภูตในตำนาน จมูกยาว ตาโต เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศนอร์เวย์

มีตำนานหรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับตัวโทรลว่าถ้ามันโดนแดดจะกลายเป็นหิน 
จึงมีตัวโทรลมากมาย เพราะภูมิประเทศส่วนใหญ่ของประเทศนี้ประกอบด้วยเทือกเขาสูง


           เมือง Flå เป็นเมืองเล็กๆอยู่ในหุบเขา คนนิยมมาเล่นสกีช่วงหน้าหนาว ห่างจาก Oslo 140 กม.



ออกเดินทางไปเมือง Gielo ต่อค่ะ ระยะทางประมาณ 120 กม.


วิวสองข้างทางยังเต็มไปด้วยหุบเขาและฟยอร์ด


บ้านไม้สีแดงหลังเล็กๆพบเห็นได้ตลอดทาง




โบสถ์ไม้ดูอบอุ่นเรียบง่าย


Stave Church เป็นโบสถ์ไม้สไตล์ไวกิ้งโบราณ


ใกล้ถึงเมืองเกียร์โลแล้วค่ะ


ฝูงแกะตัวอ้วนกลมกินหญ้าอย่างสบายใจ


ใบไม้เปลี่ยนสีมากขึ้นเพราะเส้นทางขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ

ต้นสนไม่เปลี่ยนสี

ต้นไม้ที่เปลี่ยนสีเมื่อร่วงโรยก็จะเข้าสู่ฤดูหนาว



เวลา 13:00 น.เดินทางมาถึงเมือง Geilo พักทานอาหารกลางวันที่โรงแรม Bardøla Høyfjellshotell 


โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่รีสอร์ทสกี Geilo Ski Resort  

อุณหภูมิบนนี้ 2 องศา หนาวมากๆค่ะ หน้าแข็งไปหมดยิ้มไม่ออกเลยค่ะ

เข้าไปทานอาหารด้านในกัน

มื้อนี้เป็นอาหารบุฟเฟต์แบบท้องถิ่น เมนูแนะนำคือ แซลมอนรมควัน
พวกเรามาถึงบ่ายแล้วอาหารเลยดูหน้าตาไม่สวยงาม แต่รอสักพักทางโรงแรมก็เอาปลาตัวใหม่มาเสิร์ฟ


ขนมหวานอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ


ทานอาหารมื้อเที่ยงไม่มาก เน้นขนมหวานและผลไม้ค่ะ เมลอนหวานมาก


ทานอาหารเสร็จก็ออกมาเดินเล่นด้านนอก


โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในอุทยาน National Park Hotel
บริเวณเชิงเขา Hallingskarvet. 

ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากๆค่ะ





เดินเล่นและถ่ายรูปกันทุกมุม




ใบไม้แดง ส้ม









Surrounded by beautiful mountains in the ski-resort Geilo



ตัวเมือง Geilo ห่างจากที่นี่ประมาณ 600 เมตร




เวลา 14:00 น.ออกเดินทางต่อค่ะ เส้นทางจากนี้จะขึ้นเขาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ


ถนนเป็นทางสองเลน แต่แทบไม่มีรถวิ่งเลยค่ะ ไม่มีรถติด


นานๆจะมีรถสวนมาสักคัน


นั่งรถแบบนี้ไม่มีเบื่อเลยค่ะ เพราะวิวริมถนนสวยงามตลอดทาง


ใบไม้เปลี่ยนสีทั้งภูเขา อีกไม่กี่วันก็ร่วงหมดแล้ว


ถนนสายหลักเส้นนี้คือ  Route 7 (Main road) 




ถ่ายรูปกันตลอดทาง


ภูเขาสูงด้านหน้ามีหิมะปกคลุมแล้ว


บนภูเขาแบบนี้ก็มีฟยอร์ด




โรงแรมริมฟยอร์ด


ภูเขาสูงด้านหน้าดูสูงและยิ่งใหญ่มากๆ










เส้นทางตอนนี้อยู่บนเขาสูง ไม่มีต้นไม้ใหญ่ๆแล้วค่ะ เพราะลมแรงมาก

ยิ่งสูงเริ่มมีหิมะทั้งสองข้างทาง



ระยะเวลาในการนั่งรถประมาณ 1 ชม.บน Route 7 
เราจะเห็นภูมิประเทศเปลี่ยนไปเหมือนอยู่คนละประเทศกันเลย


ตอนนี้เข้าสู่เขตรัฐ Hordaland



เสาสูงสองข้างทางปักไว้เพื่อเป็นขอบถนนป้องกันรถไถลออกนอกเส้นทาง เวลาหิมะตกหนัก




อุณหภูมินอกรถตอนนี้ 0 องศาแล้วค่ะ


ลมแรงมากเห็นหิมะปลิวกระจายอยู่ไกลๆ




แอ่งน้ำยังไม่เป็นน้ำแข็งค่ะ










เวลา 15:00 น. มาถึงจุดชมวิวบนยอดสูงสุดของเทือกเขา


ลมแรงมากๆ และอากาศก็หนาวจัดเช่นกันค่ะ




ถึงจะมีแดดอ่อนๆแต่ก็ยังหนาวจัดค่ะ


1245 metres above sea level





มองไปรอบๆไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆเลย รอบตัวมีแต่หิมะ

มีโต๊ะหินให้คนมานั่งเล่นด้วยค่ะ แต่หนาวแบบนี้คงไม่มีใครมานั่งแน่ๆ55



หิมะใหม่ ขาว ฟู สะอาดค่ะ


รูปสุดท้ายก่อนเดินทางต่อค่ะ


ทางลงจากเขาก็ยังใช้เส้นทางเดิม Route 7 อีกฟากของเขาก็มีใบไม้เปลี่ยนสีเหมือนกัน




เวลา 15:30 น.เดินทางมาถึง Hardangervidda National Park

บริเวณเป็นจุดชมวิวค่ะ เดินไปตามทางได้เลย

สุดทางคือหน้าผาชมวิว มีราวเหล็กกั้นตลอดแนวป้องกันอุบัติเหตุ

ด้านล่างคือหุบเขา Måbødalen (Måbø Valley)

เห็นวิวครั้งแรกแล้วตะลึงเลยค่ะ ทั้งสวยและใหญ่อลังการมาก


View of the Vøringfossen and the Måbødalen canyon


น้ำตก Vøringfossen ในหุบเขา


The 7-kilometre  long valley begins at the village of Øvre Eidfjord and ends at the Sysendalen valley on the western side of the Hardangervidda plateau.


หุบเขานี้มีความยาว 7 กม.

Måbødalen (Måbø Valley) is a narrow valley in the municipality of Eidfjord.

Vøringfossen เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของเขตนี้ มีความสูง 182 เมตร




จากมุมนี้มองเห็นจุดสูงสุดของน้ำตก


ทางเดินชมวิวทอดยาวตลอดความกว้างของหุบเขา





ด้านบนคือโรงแรม Fossil Hotel




นั่งชมวิวจากระเบียงด้านบน


เดินเล่นรอบๆลานด้านบน


บริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ  Hardangervidda National Park 




This is Norway's largest national park (3,422 square kilometers)


เวลา 16:00 น.ออกเดินทางต่อไปตาม Route 7 ถนนช่วงนี้จะขนานไปกับฟยอร์ดตลอดแนว


มีเรือสำราญจอดเทียบท่าที่เมืองเล็กๆ




มีโรงแรมตั้งอยู่ริมฟยอร์ดเลยค่ะ


ที่จอดเรือยอร์ช




เรือหาปลา หน้าตาเหมือนเรือตังเกบ้านเราค่ะ


มองเห็นสะพานข้ามฟยอร์ดด้านหน้า


เราไปข้ามสะพานนั้นกันค่ะ


สะพานนี้มีชื่อว่า The Hardanger Bridge (Hardangerbrua) 

The bridge is 1,380 metres  long, with a main span of 1,310 metres . 
The maximum deck height is 55 metres and the towers reach 200 metres above sea level. 


สะพานนี้สร้างข้าม Eidfjorden (branch of Hardangerfjorden)


A separate lane for pedestrians and cyclists.
มีเลนจักรยานและทางคนเดินด้วยค่ะ


ข้ามสะพานมาอีกฝั่ง


ฝั่งนี้คือเมือง Ulvik


แวะเดินเล่นก่อนค่ะ



บริเวณนี้เป็นจุดพักรถ


ป้ายแสดงจุดท่องเที่ยวในย่านนี้


เดินเข้าไปที่จุดชมวิวด้านในก่อนค่ะ


มาถึงจุดชมวิวสะพาน The Hardanger Bridge (Hardangerbrua)


The opening of the bridge took place on 17 August 2013.


สะพานนี้เชื่อม 2 เมืองคือ Ullensvang and Ulvik.


 It replaced a ferry connection between Bruravik and Brimnes, 
and thereby shortens the driving time between Oslo and Bergen. 


It is the longest suspension bridge in Norway.
สะพานแขวนยาวที่สุดในนอร์เวย์


The main span is one of the longest suspension bridge spans in the world.
 It is also the longest tunnel to tunnel suspension bridge in the world.


ถ่ายรูปเสร็จก็ออกมาเดินเล่น



อุลวิคเป็นเมืองชนบทเล็กๆเงียบสงบ


หมู่บ้านนี้อยู่ติดภูเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณพันเมตร


ออกเดินทางต่อค่ะ


เวลา 18:00 น.เดินทางถึงเมืองเบอร์เก้น (Bergen)


เข้ามาทานอาหารเย็นในเมือง

ด้านหลังคืออาคารไม้หน้าอ่าว Bryggen


ร้านอาหารจีนเสฉวน

เวลา 19:00 น.ทานอาหารเสร็จแล้วพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน เดินเล่นชมเมืองกันค่ะ


ถนนนี้ชื่อ Øvregaten เป็นถนนที่ขนานไปกับถนนหน้าอ่าว แต่อยู่ด้านบน

ทางเดินลงไปชมอาคารไม้หน้าอ่าว

วันนี้พวกเรายังไม่ลงไปด้านล่างค่ะ ขอเดินเล่นด้านบนนี้ก่อน

มีบ้านไม้สีแดงหลังเล็กๆหลายหลัง

เดินตามถนนขึ้นไปทางเหนือ ฝั่งขวามือมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย


ฝั่งซ้ายมือเป็นอาคารไม้แบบเก่าสวยคลาสสิก
Bryggen World Heritage Site in Bergen 

อาคารฝั่งขวามือจะดูสวยแบบทันสมัย




อาคารไม้ทุกหลังจะมีหลังคาหน้าจั่ว ทรงคล้ายกันแทบทุกหลัง



ระหว่างอาคารแต่ละหลังมีทางเดินเพื่อลงไปบริเวณหน้าอ่าวได้ค่ะ



The Hanseatic Museum and Schøtstuene - Museum Vest
พิพิธภัณฑ์และห้องประชุม

The Hanseatic Museum is one of the oldest wooden buildings in Bergen, 
furnished in 18th century style and shows the life of the Hanseatic merchants.

Bryggens Museum (ด้านหลัง)

ด้านขวามือคือซุปเปอร์มาร์เกต มีอาหารและของขายเยอะพอสมควร ราคาไม่แพง

ขวามือคือด้านหลังของโบสถ์

St Mary's Church (Mariakirken) 


โบสถ์เซนต์แมรี่

เป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่กลางเมืองเบอร์เก้น

ตอนนี้ใกล้จะสองทุ่มแล้วค่ะ เริ่มเหนื่อยหมดแรงพรุ่งนี้เราจะมาเดินเล่นให้ทั่วเมืองเบอร์เก้นอีกครั้ง

เวลา 20:00 น.เดินทางกลับที่พัก อาบน้ำและพักผ่อนกันค่ะ

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ13/5/66 19:14

    สวยมากค่ะ เพิ่งกลับมาเหมือนกัน

    ตอบลบ