TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2557/03/15

2.รายาบุรีรีสอร์ท-ดูเสือวัดป่าหลวงตามหาบัว-ทางรถไฟสายมรณะ-น้ำตกไทรโยคน้อย

วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2557

ตื่นมาตอน 7 โมง พระอาทิตย์ ก็ขึ้นไปพ้นขอบน้ำแล้ว แต่อากาศเย็นสบาย ไม่มีแดดเลยค่ะ




วิวแสนสวยตอนเช้า ที่ระเบียงห้องพัก รายาบุรี รีสอร์ท 



ที่พักแพในเขื่อน Raya Island




ระเบียงหลังห้องมีอ่างอาบน้ำด้วยค่ะ. อาบน้ำไปชมวิวเขื่อนไป...น่าจะโรแมนติกดีนะคะ






หน้าห้องพัก เป็นบ้านหลังเดี่ยว(ส่วนตัวดีค่ะ)




ตื่นครบทุกคนแล้ว ออกไปเดินเล่นชมรีสอร์ทกันดีกว่า



โซนที่พักของพวกเราอยู่บนเนินเขา. รายาริเวอร์วิว.( เพราะไม่อยากนอนพักในแพริมเขื่อน)




เดินลงบันได ไปดูที่พัก ในเขื่อนกันค่ะ



มีเรือถีบให้บริการด้วยนะคะ.




รีสอร์ทนี้ไม่มีสระว่ายน้ำ. เพราะมีสระน้ำ(เขื่อน)ขนาดใหญ่อยู่แล้ว. น้ำเย็นมากเลยค่ะ



รายามารีน่า. เป็นแพกลางน้ำไว้จัดงาน จัดปาร์ตี้



มีเรือมารับแขกที่พักใน รร.ไปชมเขื่อนค่ะ. จองกันมาเป็นกรุ๊ปทัวร์. เราไปแจมไม่ได้นะคะ






มีร้านมินิมาร์ทด้วยค่ะ. เพราะรีสอร์ทนี้อยู่ไกลจากเมืองมาก





อันนี้เป็นโซนที่พักด้านบนสุด Raya Hillside




ล็อบบี้ที่นี่นั่งเล่นสบายมากค่ะ วิวสวยทุกมุม






ทานอาหารเช้ากันค่ะ. อาหารหลากหลายมีให้เลือกหลายชนิด ต้องเอาผ้าปิดไว้เพราะแมลงวันเยอะมากๆ




อาหารอร่อยดีค่ะ




ทานอาหารเช้า พร้อมชมวิวความงดงามของบ้านพักในสไตล์บาหลี ซึ่งผสานกันไว้อย่างลงตัว กับความงดงามของธรรมชาติ สมคำที่ว่า .." รีสอร์ทสุดหรู บรรยากาศสุดคำบรรยาย เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ " 
ที่สุดแห่งการพักผ่อน " 
It's Just for you Raya Buri Resort



เวลา 8:30 น. เช็คเอ้าท์จากที่พัก ระหว่างทางมีร้านขายเมลอนเยอะมาก. เพราะมี บ.เอาเมล็ดพันธุ์เมลอนญี่ปุ่นมาทดลองปลูกที่เมืองกาญจน์ก็ได้ผลผลิตที่ดี เราขับรถผ่านฟาร์มเมล่อน เจียไต๋ แต่ไม่ได้เข้าไปซื้อด้านใน แม่ตุ๊กขอแวะซื้อข้างทางค่ะ อยากลองชิมดูว่าจะหวานเหมือนของญี่ปุ่นไหม



สีส้มอ่อนๆไม่สดเข้ม. รสชาติหวานพอควร เหมือนทานแคนตาลูปมากกว่า แต่ราคาไม่แพง(เหมือนที่ญี่ปุ่น)พอทานได้




ขับรถตามเส้นทางจากกาญจนบุรีไปยังไทรโยค หลักกิโลเมตรที่ 21 

มาถึง วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณ เห็นด้านหน้าเป็นรูปเสือก็เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 1.5 กม.



ทางเข้าวัดทางซ้ายมือเป็นรูปถ้ำเสือ โดยใช้รูปเสือแสงตะวันกับลูก ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาว (เสือแสงตะวันเป็นเสือตัวแม่ที่โดนพวกพรานป่าทำร้ายจนจมูกแหว่งจนได้มาอยู่ที่วัดเสือและผลิตลูกๆอีกหลายตัว) ปัจจุบัน วิหารเสือ หรือ ถ้ำเสือ ใช้เป็นสำนักงานของท่านเจ้าอาวาสในตำแหน่งที่ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นที่ประชุมสงฆ์ของจังหวัดกาญจนบุรี



TIGER TEMPLE
สำหรับนักท่องเที่ยวไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด แต่ต้องเข้าชมก่อนเที่ยง ซึ่งหลังจากเที่ยงไปจะเก็บเงินเป็นค่าใช้จ่ายอาหารเสือ และแก่พนักงานที่คอยกำกับดูแล 
สำหรับคนไทยคิดค่าเข้าชม 300 บาท  ส่วนชาวต่างชาติ 600 บาท 
เรามาถึง 9:30 น. ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม แต่มีตู้รับบริจาคอยู่ตรงทางเข้านะคะ



เวลาและค่าเข้าชม Cub exercise-feeding program




พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน) แห่งวัดป่าบ้านตาด อุดรธานี ได้รับการถวายที่ดินบริเวณบ้านพุไม้แดง ตำบลสิงห์ กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2537 เพื่อสร้างเป็นวัดป่าสถานที่ปฏิบัติธรรม ต่อมาท่านได้มีพระบัญชาให้ พระอาจารย์ภูสิต (จันทร์) ขันติธโร ได้จัดตั้งเป็นวัด



นกยูงรำแพนหางอวดนักท่องเที่ยว



สวนนกค่ะ มีนกหลายชนิด



นกเงือก



ทานผลไม้จนปากแดงเลยค่ะ




นกเงือกหัวหงอก






นกกะรางหัวหงอก






ไก่ฟ้าพญาลอ






มีการฟื้นฟูสภาพป่าโดยรอบให้เป็นที่อาศัยของสัตว์มากมายหลายชนิด




ข้างในสุดเป็นหุบเสือ Tiger Canyon




เดินๆไปก็จะเจอสัตว์จำพวก กวาง  เก้ง นกยูง หมูป่า แพะ 





เลี้ยงแบบปล่อยค่ะ เดินปะปนกับนักท่องเที่ยว บางตัวเชื่องก็จับได้นะคะ






Do's and Dont's



Buddha Image



หลวงพ่อพุดซ้อน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากในท่านั่งสมาธิ ประดิษฐานอยู่ระหว่างภูเขาสองลูก
ทางทิศตะวันตกของวัด




แผนผัง




ไปดูเสือกันค่ะ




ตอนนี้มีเสืออยู่แค่ 3 ตัว ออกมาอวดโฉมให้เราดู(ตัวอื่นคงยังนอนอยู่มั้งคะ)




เกาะกำแพงดูแบบใกล้ชิด




อากาศร้อนจัด ต้องมีแอ่งน้ำให้เสือลงไปแช่ด้วยค่ะ



หุ่นดีจังเลย (ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป)




เล่นฟัดกันแรงมาก



เรามาถึงเช้ายังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เลยยืนดูเสือได้แบบสบายใจ





กวางกับหมูป่าเดินตาม




หมีควายมีลำตัวอ้วนใหญ่ หัวมีขนาดใหญ่ ตาเล็กและหูกลม ขาอ้วนล่ำและหนา หางสั้น มีนิ้วเท้ายาว 5 นิ้ว กรงเล็บสั้น ขนตามลำตัวหยาบมีสีดำ มีลักษณะเด่นคือ ขนบริเวณหน้าอกเป็นรูปตัว V มีสีขาว 




ลูกหมีควาย ตัวเล็กมากๆ อยู่ในกรง



เวลาประมาณ 11:30 น. ออกเดินทางออกจากวัดกันค่ะ




สถานีรถไฟถ้ำกระแซ  มีสถานี 2 แห่งคนละด้านถูกกั้นโดยหน้าผาที่สวยงาม สถานีรถไฟถ้ำกระแซด้าน
ที่อยู่ใกล้เคียงกับถ้ำกระแซจะมีร้านรวงจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ร้านค้าจำหน่ายอาหาร
 ส่วนอีกด้านหนึ่งมีเพียงตู้สถานี และชานชาลาเล็ก ๆ เท่านั้น






ถ้ำกระแซ ถือเป็นจุดชมวิวที่โด่งดัง และเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี 
เพราะถือว่าเป็นจุดที่สวยที่สุด และอันตรายที่สุดของเส้นทางรถไฟสายกรุงเทพฯ - น้ำตก
  



เรียกกันว่า "เส้นทางรถไฟสายมรณะ” (The Death Railway) 




เมื่อรถไฟผ่านเส้นทางก่อนถึงสถานีถ้ำกระแซ รถไฟจะชะลอความเร็วลง เพื่อความปลอดภัย
 เพราะโครงสร้างสะพานยังคงเป็นโครงไม้ดั้งเดิม




 ได้ชมวิวที่สวยงาม จากทางฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ที่ไหลอยู่ด้านล่าง




 เส้นทางรถไฟบริเวณนี้ที่ถือว่า เป็นจุดอันตรายที่สุดในการก่อสร้างทางรถไฟ เพราะเป็นการสร้างทาง
ตัดผ่านหน้าผาหินสูงชัน อีกฝั่งเป็นเหวลึกสู่ลำน้ำแควน้อย 
ในช่วงเส้นทางประมาณ 400 เมตรนี้ มีความลำบากในการก่อสร้างเป็นอย่างมาก





ถ้ำกระแซ เป็นถ้ำเล็กๆ ตั้งอยู่ริมหน้าผาใกล้กับทางรถไฟ เคยเป็นที่พักของเชลยศึก ในช่วงที่มีการสร้างทางรถไฟสายมรณะ  





สามารถเข้าไปไหว้ขอพรหลวงพ่อถ้ำกระแซ พระพุทธรุปองค์ใหญ่ที่ชาวบ้านในเขตพื้นที่ใกล้เคียง
ให้ความนับถือ รวมทั้งนักท่องเที่ยวด้วย



แวะดูของเล่นของฝากก่อนกลับค่ะ



เดินทางต่อมายัง...น้ำตกไทรโยคน้อย.... เดิมเรียกกันว่า "น้ำตกเขาพัง" ตั้งอยู่ห่าง จากสถานีรถไฟน้ำตกอีกประมาณ 2 กม. ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 60 กม. อยู่ริมถนน ทล.323 ระหว่างทางไป สังขละบุรี 






เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่สวยงามร่มรื่น โดยมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน ฤดูหนาว แต่ช่วงฤดูร้อนน้ำจะน้อยถึงน้อยมาก






มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะค่ะ





บริเวณน้ำตกยังมีหัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างทาง รถไฟสายมรณะ ที่สร้างผ่านบริเวณด้านหน้าน้ำตกไทรโยค เข้าสู่ประเทศพม่า




อัตราค่าบริการปกติ รถไฟบางกอกน้อย (ธนบุรี) - น้ำตก  ขณะนี้อยู่ในช่วงการนโยบายให้บริการรถไฟฟรีเพื่อประชาชน ยกเว้น ชาวต่างชาติ ท่านละ 100 บาทสำหรับตู้โดยสารปกติ



มหัศจรรย์เขาวงกตต้นข้าวโพด ....ได้ข้อมูลและรูปภาพมาจาก ททท.
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่บนพื้นที่ 26 ไร่ ของ กองการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ช่องเขาขาด) ภายในได้ออกแบบทางเดินให้เหมือนกับเขาวงกตรายล้อมด้วยต้นข้าวโพดตลอดทั้งสองข้างทาง และยังมีพื้นที่อีกส่วนหนึ่งปลูกต้นทานตะวันไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงจังหวัดลพบุรี นอกจากนี้ยังมีหอสังเกตุการณ์ความสูง 34 ฟุต ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบท้าทายความสูง โดยสามารถปีนขึ้นไปชมความสวยงามพร้อมทั้งถ่ายภาพของ "มหัศจรรย์เขาวงกตต้นข้าวโพด" ในมุมมองแบบ Bird eyey view อีกด้วย เปิดตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็กและนักเรียน 10 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี โทร. 0 3451 1020, 0 3451 3206




การเดินทาง ใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ (ทางหลวงหมายเลข 323) ประมาณกม.ที่ 68 ถึงก่อน "ช่องเขาขาดพิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ" ประมาณ 200 เมตร



ขับมาถึง...แปลกใจมากว่า ทำไมไม่มีไร่ข้าวโพดเลย สิ่งก่อสร้างก็ดูผุพัง



เห็นแต่ภาพวาดบนผนัง SAI-YOK-CORN-MAZE
เดินทางกลับที่พักกันค่ะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น