TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2561/05/01

1.เที่ยวฮังการี Budapest

วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561

เวลา 19:00 น.เดินทางมาถึงกรุงบูดาเปสต์มืดเลยค่ะ แต่พวกเรายังไม่หิวข้าวเลยขอนั่งรถบัสขึ้นไปชมวิวบนยอดเขา Gellert Hill ก่อน ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็ขึ้นมาถึง ข้างบนมืดมากๆค่ะ ตอนนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวแล้ว


 รถบัสจอดที่ลานด้านนอก ต้องเดินลงเนินไปอีกประมาณ 100 เมตร (แอบดูเปลี่ยวนิดๆ)

เดินมาถึงจุดชมวิวมรดกโลกของเมืองบูดาเปสต์แล้วค่ะ

Citadella คือชื่อเรียกของจุดชมวิวนี้ เป็นป้อมปราการสมัยโบราณ มองเห็นวิวยามค่ำคืนงดงามมาก
ทุกคนที่ได้มายืนตรงจุดนี้แทบจะร้องว้าว!!!ทุกคนเลยค่ะ


The Banks of the Danube and the Buda Castle was inscribed in 1987 on the World Heritage list.


โค้งของแม่น้ำดานูบและพระราชวังเมื่อมีแสงไฟยามค่ำคืนงดงามน่าประทับใจมาก
ภาพที่เห็นด้วยตา สวยงามกว่าภาพถ่ายหลายเท่าเลยค่ะ


Chain Bridge : สะพานโซ่ เชื่อมฝั่งซ้าย (Buda) กับฝั่งขวา (Pest)  ของแม่น้ำดานูบ


Buda Castle : ปราสาทบูดา


ยืนถ่ายรูปและชมวิวประมาณครึ่งชั่วโมงก็ทนไม่ค่อยไหวแล้วค่ะ 
อากาศบนยอดเขานี้หนาวมากยิ้มจนปากแข็งเลยค่ะ55

เดินย้อนกลับไปขึ้นรถบัสเพื่อลงเขากันค่ะ


นั่งรถลงจากเขา ข้ามสะพานเชนไปฝั่ง pest ระยะทางประมาณ 3 กม.
เวลา 20:00 น. มาถึงร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังของที่นี่ค่ะ
Domus Vinorum Wine House and Restaurant

ในร้านตกแต่งเหมือนเป็นถ้ำ ต้องเดินผ่านอุโมงค์เข้าไปเรื่อยๆ

ระหว่างทางมีการตกแต่งตามช่องผนังด้วยขวดไวน์ เก๋ไก๋ที่สุด

ด้านในสุดคือห้องอาหาร


บรรยากาศไฟสลัว


อาหารเริ่มต้นด้วยซุปกูราซ เป็นซุปกระดูกหมูตุ๋นสีแดงเข้มข้นอร่อยค่ะ ทานคู่กับพริกปาปริก้า


เมนคอร์สคือ เนื้ออกไก่ชุบแป้งทอดทานกับข้าวสวย ปิดท้ายด้วยเค้กบานอฟฟี่


ทานอาหารเสร็จก็เดินชมภายร้านกันก่อนค่ะ ด้านในมีแยกเป็นหลายๆห้อง


แต่ละห้องก็ตกแต่งด้วยขวดไวน์สีเขียว ตัดกับผนังอิฐสีแดง


เดินลัดเลาะไปตามห้องต่างๆ ทางเดินเป็นซอกเล็กๆเหมือนอยู่ในหลุมหลบภัยเลยค่ะ




วันนี้ไม่มีลูกค้า พวกเราเลยเดินเล่นได้ทั่วทุกห้อง

เดินไปเรื่อยๆกลัวหลงทางเหมือนกันค่ะ55 เพราะร้านค่อนข้างใหญ่



องุ่นสำหรับผลิตไวน์

เดินชมจนทั่วก็ออกมานั่งเล่นด้านหน้า ในร้านมีไวน์มากมายให้ซื้อกลับบ้านได้ค่ะ
Hungary Wine

ทานอาหารเสร็จก็เดินทางกลับที่พักค่ะ ผ่าน Budapest Eye

เวลา 21:30 น.มาถึงที่พัก Mercure Budapest Buda Hotel
เก็บของเสร็จคุณป๋าชวนออกไปถ่ายรูปริมแม่น้ำดานูบค่ะ


เวลา 22:00 น. นั่งรถแท็กซี่ออกมาชมเมืองยามค่ำคืนค่ะ ข้ามสะพานเชนแล้วเดินเล่นฝั่งPest
บริเวณเชิงสะพานนี้เรียกว่าจัตุรัสรูสเวลต์ (Roosevelt Square)
 อาคารด้านหลังคือ Hungarian Academy of Sciences

Tram วิ่งเลียบแม่น้ำดานูบ

ดึกขนาดนี้รถไฟก็ยังวิ่งอยู่ค่ะ แต่ไม่ค่อยมีผู้โดยสารแล้ว


ลงไปเดินที่ถนนด้านล่างกันค่ะ จะได้ชมวิวริมแม่น้ำ

ฝั่งตรงข้ามคือป้อมปราการฟิชเชอร์แมน หรูหราใหญ่โตมากๆค่ะ


Fisherman's Basition
ป้อมปราการทรงกรวยแหลม 7 ยอด พรุ่งนี้เช้าเราจะขึ้นไปชมด้านบนกันค่ะ


ด้านล่างทางขวามือคือโบสถ์เล็กๆ


ดูจากกูเกิ้ลแมพ เขียนว่า โบสถ์รีฟอร์ม เป็นโบสถ์ที่อยู่ริมแม่น้ำดานูบ


เดินจากเชิงสะพานเชนมาประมาณ 1 กม.ก็มาถึง อาคารรัฐสภาฮังการีแล้วค่ะ

Hungarian Parliament Building
and statue of  Francis II Rakoczi


บริเวณนี้คือด้านข้างของอาคาร เดี๋ยวเราเดินข้ามไปอีกฝั่งแม่น้ำเพื่อถ่ายรูปด้านหน้า


Attila Jozsef Statue
เป็นกวีชาวฮังกาเรียนผู้โด่งดัง บทกวีของเขาได้รับการตีพิมพ์หลายภาษา เสียชีวิตตอนอายุ 32 ปี

ชอบภาพนี้ค่ะ เหมือนกำลังนั่งมองแม่น้ำดานูบเพื่อแต่งบทกวี
ตำแหน่งนี้มองเห็นป้อมฟิชเชอร์แมนชัดเจน


เดินเล่น ถ่ายรูปสักพักก็เดินกลับทางเดิมค่ะ

เนินเขาด้านหน้าเรียกว่าเนินปราสาท หรือ Castle Hill 
มีความสูงประมาณ 60 เมตร เป็นที่ตั้งของป้อมปราการและพระราชวังหลวง


Chain Bridge and Buda Castle


Buda Castle : The historical castle and palace complex of the Hungarian kings.
สร้างเสร็จครั้งแรกในปี ค.ศ.1265 


Chain Bridge : The first permanent stone-bridge connecting Buda and Pest.

พวกเราลงมาเดินเลียบแม่น้ำดานูบกันค่ะ รับลมเย็นแบบหนาวจัดเลย

The iron chains : Chain Bridge

ทั้งสองฝั่งของสะพานมีสิงโตหินเฝ้าอยู่ ข้างละ 2 ตัว


เข้าอุโมงค์ใต้สะพานข้ามไปอีกฝั่งค่ะ




ตรงนี้วิวสวยมากๆค่ะ เห็นพระราชวังชัดเจน มีเก้าอี้นั่งเล่นตลอดแนวแม่น้ำ


เงียบสงบถ้าอากาศดีๆน่านั่งเล่นค่ะ แต่ตอนนี้พวกเราหนาวจนสั่นแล้ว

ไปเดินเล่นบนสะพานกันค่ะ ที่เชิงสะพานมีโรงแรมหรูหรา
Four Seasons Hotel Gresham Palace


รูปปั้นสิงโตนอนเฝ้าที่เชิงสะพานทั้งสองข้าง
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความแปลกของสิงโตทั้ง 4 ตัวนี้ แต่พวกเราต้องไปดูให้ครบทั้งสี่ตัวก่อน


ประวัติเป็นภาษาฮังการี..อ่านไม่ออกค่ะ ต้องใช้กูเกิ้ลแปลภาษา


สิงโตทางฝั่งขวา


บนสะพานนี้ถ่ายรูปปราสาทได้สวยที่สุดแล้วค่ะ


The iron chain,on which the road-bed hang,are held by two 48-meter river piers in classicist style.


Elisabeth Bridge : ข้างหน้าคือสะพานเอลิซาเบธ 
เป็นสะพานแขวน สร้างข้ามส่วนที่แคบที่สุดของแม่น้ำดานูบ มีความยาว 378.6 เมตร 
มองเห็นอนุสาวรีย์เสรีภาพบนยอดเขา Gellert Hill ที่พวกเราขึ้นไปชมวิวตอนหัวค่ำ


 สะพานเชนมีความยาว 380 เมตร และมีทางเดินยาวตลอดแนวทั้งสองข้าง


UNESCO World Heritage Site in 1987


เป็นวิวกลางคืนที่สวยมากๆ คนมาเยือนฮังการีควรมาชมที่สุดเลยค่ะ


The stone lions สร้างโดย Janos Marschalko
มีตำนานเล่ากันมาว่าสิงโตที่สะพานนี้ไม่มีลิ้น แต่จริงๆแล้วเวลาสิงโตอ้าปากลิ้นมันจะกระดกขึ้นไปข้างบน


มองย้อนกลับไปฝั่ง pest จะเห็นอาคารรัฐสภาโดดเด่น


อาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก

ถ่ายรูปเสร็จก็เดินลงจากสะพานข้ามมาอยู่ฝั่ง buda มีป้ายบอกทางไปสถานที่สำคัญ


เดินไปทางขวาประมาณ 80 เมตร จะพบกับ Zero Kilometre Stone 
พวกเราเดินไปนิดนึงแล้วมันดูเปลี่ยวมากเพราะอยู่ในสวนมืดๆ เลยเดินกลับมาที่เดิม

บริเวณวงเวียนเชิงสะพานเป็นมุมถ่ายรูปที่สวยค่ะ


Budai Varalagut  : ฺBuda Castle Tunnel
เป็นอุโมงค์ที่ลอดใต้ Castle Hill มีความยาว 250 เมตร พวกเราจะเดินเข้าอุโมงค์นี้เพื่อกลับโรงแรมค่ะ


ด้านในอุโมงค์มีป้ายบอกชื่อผู้สร้าง
จากตรงนี้ถึงโรงแรมประมาณ 1 กม. เดินกลับถึงโรงแรมร่วมเที่ยงคืน รีบอาบน้ำเข้านอนกันเลยค่ะ


วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561
เวลา 6:30 น.ตื่นเช้ามองวิวจากหน้าต่างห้องนอน castle hill อยู่ข้างหน้า เห็นยอดโบสถ์และยอดปราสาทไม่ไกล


เวลา 7:30 น.ลงมาทานอาหารเช้า



คำทักทายตอนเช้าในหลายภาษา


ลงมาเดินเล่นที่หน้าโรงแรม

เวลา 8:00 น. นั่งรถข้ามสะพานเชนไปฝั่ง pest เพื่อไป Heroes' Square ระยะทางประมาณ 5 กม.
ผ่านอนุสาวรีย์ Jokai


ผ่านย่านมหาวิทยาลัย ตึกเก่าสวยคลาสสิกมากๆ


เวลา 8:30 น. เดินทางมาถึง จัตุรัสวีรบุรุษ


Heroes' Square : Hosok tere 
เป็นจัตุรัสที่กว้างใหญ่ที่สุดในบูดาเปสต์

ตรงกลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์พันปี : Millennium Monument

สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1896 ในโอกาสงานเฉลิมฉลองครบรอบ 1000 ปี
 นับจากก่อตั้งเมืองโดยชนเผ่าแมกยาร์เมื่อปี ค.ศ. 896

เสาโครินเธียนคอลัมน์สูง 36 เมตร บนยอดมีรูปปั้นของ Archangle Gabriel ถือมงกุฎของกษัตริย์สเตฟาน
ปัจจุบันมงกุฎของจริงเก็บรักษาไว้ที่อาคารรัฐสภา

รอบฐานประดับด้วยรูปปั้น 7 รูป คือเจ้าชายอาร์พัดทรงม้านำหัวหน้าเผ่าแมกยาร์อีก 6 คน


Arpad's statue


ทั้งสองข้างของอนุสาวรีย์มีแนวเสาระเบียงประดับด้วยรูปปั้นกษัตริย์ฮังการี ข้างละ  7 พระองค์

หัวเสาด้านบนทั้ง 4 มุม มีรูปปั้นที่สื่อความหมายเรื่องสงคราม สันติภาพ ความรู้ ความมีชื่อเสียง 
ความอุตสาหะ ความเจริญรุ่งเรือง



Museum of Fine Art พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ อยู่ทางซ้ายของจัตุรัส 
เป็นอาคารสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ ภายในจัดแสดงภาพวาดและงานประติมากรรม


Mucsarnok Art Gallery : Kunsthalle
อยู่ทางขวาของจัตุรัสเป็นอาคารแบบนีโอคลาสสิกจัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในฮังการี


เดินไปตามถนนด้านหลังจัตุรัสประมาณ 100 เมตรจะพบกับทะเลสาบเล็กๆด้านหลังคือปราสาทแดร็กคูล่า

Vajdahunyad Castle
เป็นกลุ่มอาคารที่จำลองมาจากสถานที่สำคัญของฮังการีประมาณ 20 แห่ง สร้างขึ้นพร้อมกับจัตุรัสวีรบุรุษ


ปัจจุบันภายในปราสาทจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เกษตรกรรม Museum of Argriculture


สถาปัตยกรรมของอาคารนี้นับตั้งแต่ประตูทางเข้า กำแพง โบสถ์ หอคอย มีหลายแบบคือ โรมาแนสก์ โกธิค บารอค และเรอเนสซองส์ ทำให้รูปทรงคล้าย Vajdahunyad and Segesvar ปราสาทที่เป็นตำนานของแดร็กคูล่าผีดิบดูดเลือดในโรมาเนีย

ถ้าเดินไปทางสะพานสีฟ้าด้านหลังประมาณ 200 เมตร จะไปถึงโรงอาบน้ำเซเชนยี 
Szechenyi Thermal bath เป็นโรงอาบน้ำสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป (พวกเราไม่ได้เดินไปค่ะ)

อาคารด้านหลังคือทางเข้า City Park Ice Rink and Boating 
ด้านในเป็นทะเลสาบเล็กๆในฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งและเป็นลานสเก็ต

เดินย้อนกลับมาที่จัตุรัสวีรบุรุษ

Budapest Hall of Art or Palace of Art : Mucsarnok Kunsthalle is a contemporary art museum

มองจากตรงนี้ย้อนกลับไปจะเห็นว่า Heroes' Square กว้างใหญ่มาก 
ด้านซ้ายมือเชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญคือ Andrassy Avenue


ป้ายบอกทางไปสถานที่สำคัญ






UNESCO World Heritage Site

 Large Neoclassical Style


ผนังทำจากอิฐสีแดงสวยโดดเด่น

เวลา 9:20 น.ออกเดินทางต่อ ไปตามถนน Andrassy utca


St.Stephen's Basilica เป็นโบสถ์ที่ชาวฮังการีสร้างถวายแก่กษัตริย์สตีเฟน หรือ St.Istvan 
ซึ่งเป็นกษัตริย์ฮังการีองค์แรกที่นับถือศาสนาคริสต์ สร้างในปี ค.ศ.1851
 ยอดโดมคู่สไตล์เรอเนสซองส์ สูง 96 เมตร ถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงสุดในตัวเมือง


ผ่าน Budapest Eye


ข้ามสะพานเชน ผ่านพระราชวังนั่งรถขึ้นไปบน Castle Hill


เวลา 9:30 น.เดินทางขึ้นมาถึงป้อมปราการฟิชเชอร์แมนบาสเตียน

Fisherman's Bastion
สร้างขึ้นช่วงปี 1895-1902 มีการออกแบบป้อมปราการแบบนีโอ-โรมาแนสก์ บนแนวกำแพงเมืองเก่า 
มีบันไดและทางเดินทีลดหลั่นไปตามเชิงเขา


เดินขึ้นไปด้านบนกันค่ะ

ด้านบนเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองที่สวยมาก มองเห็นแม่น้ำดานูบและอาคารสวยงามได้ไกลๆ

มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆหลายมุม

มองออกไปเห็นอาคารรัฐสภา โดดเด่นอยู่อีกฝั่งแม่น้ำ

ด้านหลังคืออนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟนที่ 1 ปฐมกษัตริย์ของชาวแมกย่าร์

St.Stephen's Statue : Szent Istvan szobra
เป็นอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1906


กษัตริย์สตีเฟนถูกลอบปลงพระชนม์หน้าโบสถ์มาธียาส 
โดยผู้ต่อต้านการอุปถัมภ์ศาสนาคริสต์ของพระองค์ ต่อมาท่านถูกยกย่องให้เป็น St.Istvan


แผนที่บน Castle Hill จะเห็นว่ามีเนื้อที่กว้างมาก ตอนนี้พวกเราอยู่ทางด้านขวาของแผนที่ค่ะ


ด้านหน้าอนุสาวรีย์คือโบสถ์มาธียาส
Matyas Templom : Matthias Church

Palish Church of Our Lady Mary (ชื่อเดิม)
แต่เดิมโบสถ์นี้เป็นโบสถ์พระแม่มารี สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1015

ชาวเมืองนิยมเรียกว่า โบสถ์มาธียาส ตามพระนามกษัตริย์มาธียาส คอร์วินุส (1443-1490) 
ต่อมาได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญมาธียาส

Neo-Gothic style

เดินอ้อมมาถ่ายรูปด้านหน้าโบสถ์ มีคนรอเข้าไปชมด้านในจำนวนมาก


โบสถ์นี้โดดเด่นด้วยหอระฆังสไตล์โกธิค มีความสูง 78 เมตร

ในปี ค.ศ.1541 ถูกกองทัพเติร์กยึดครอง โบสถ์ถูกเปลี่ยนให้เป็นมัสยิด 
และถูกทำลายเสียหายมากในปี ค.ศ.1686 โบสถ์ที่เราเห็นปัจจุบันนี้สร้างขึ้นใหม่ ในปี ค.ศ.1873-1896


กระเบื้องมุงหลังคามีลวดลายสลับสีสดใส 


Castle District
ด้านหลังสวนสาธารณะนี้คือเขตเมืองเก่า มีสถานที่สำคัญให้เดินเล่นอีกมากมาย


Holy Trinity Square อยู่ทางตะวันตกของโบสถ์ เป็นศูนย์กลางของเขตเมืองเก่า 
อาคารขวามือคือศาลาว่าการเมืองเก่า 
ถนนทางซ้ายมือมุ่งตรงไปเขตเมืองเก่า มีร้านค้า ร้านอาหารและที่พักมากมาย


เสาคอลัมน์ Holy Trinity ตั้งอยู่กลางจัตุรัส ตรงข้ามโบสถ์มาธียาส เสานี้สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1710 
เพื่อแสดงความขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยปกป้องคุ้มครองให้ชาวเมืองพ้นจากโรคระบาด

อาคารด้านหลังโบสถ์คือโรงแรมหรู  Hilton Budapest Hotel ด้านในสุดคือ Wine Cellar Museum


ประตูทางเข้าโบสถ์ที่อยู่ฝั่งจัตุรัส



เดินชมความสวยงามของอาคารไปเรื่อยๆ ด้านหน้าจะเห็นป้อมปราการ


ป้อมปราการกรวยแหลมทางทิศเหนือ มีร้านอาหารอยู่ข้างๆ เข้าไปนั่งทานอาหารและชมวิวได้ค่ะ

ป้อมนี้นับรวมทั้งหมดมีด้วยกัน 7 ยอด สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงชนเผ่าแมกย่าร์ 7 เผ่า
ที่ช่วยปกป้องเมืองบูดาเปสต์ให้รอดพ้นจากการรุกรานของพวกมองโกล

ชื่อป้อมนี้ตั้งชื่อตามหมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ด้านล่างริมฝั่งแม่น้ำดานูบ
แต่ละป้อมมีความงดงามเหมือนปราสาทในเทพนิยาย

น้ำพุรูปดอกไม้



Memories of Humgary : ร้านกิฟต์ช็อป อยู่ด้านข้างโบสถ์ เข้าไปซื้อของที่ระลึกก่อนค่ะ

เดินเล่นถ่ายรูปด้านบนจนทั่วแล้วก็เดินลงกันค่ะ



ชมวิวตอนเดินลง เก็บรูปกันอีกรอบ




อุณหภูมิประมาณ 8 องศา ไม่มีแดด กำลังเย็นสบาย



เดินทางลงจาก Castle Hill  ข้ามสะพานเชนไปฝั่ง pest  เพื่อไปที่ท่าเรือกันค่ะ


จากท่าเรือนี้มองเห็นพระราชวังหลวงชัดเจน 
วังนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นที่ประทับของกษัตริย์หลายพระองค์ 
จนถึงศตวรรษที่ 18-19 กลายเป็นพระราชวังของราชวงศ์ฮับสบวร์กจวบจนมีการล่มสลายของจักรวรรดิ


ปัจจุบันอาคารหลายหลังในวังนี้กลายเป็น Hungarian National Gallery,Budapest History Museum,National Library,War Museum


เวลา 10:30 น.เดินทางมาถึงท่าเรือ

Sightseeing Cruise

ท่าเรือนี้อยู่ตรงสะพาน Margit hid

เดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือเลยค่ะ

เวลาล่องเรือพวกเราชอบยืนบนนี้เพราะถ่ายรูปได้ชัดไม่มีคนอื่นมาบัง


ด้านในมีที่นั่ง ชมวิวจากหน้าต่างได้ค่ะ


เรือมีสองชั้นเดินขึ้นลงได้


ได้เวลาเรือออกแล้วค่ะ

แล่นผ่านสะพานสีทอง



วันนี้บนเรือคนน้อยมากค่ะ พวกเราเลยยึดที่ตรงนี้ไว้ตลอด55


ผ่านอาคารรัฐสภา 


เรือพวกเราแล่นลงใต้ตามแม่น้ำดานูบ เห็นอนุสาวรีย์เสรีภาพอยู่ไกลๆ


พอตอนแล่นกลับเรือจะแล่นอีกฝั่งเราค่อยเก็บภาพอาคารรัฐสภาอีกครั้ง


ด้านหลังเห็นโบสถ์สองอันค่ะ 
ทางขวามือสุดที่มียอดหอคอยสีเขียวคือ St.Anne's Church เป็นโบสถ์คาทอลิก


ส่วนอันนี้คือโบสถ์โปรแตสเตนท์


Szilagyi Dezso teri reformatus templom (โบสถ์รีฟอร์ม) 


ด้านหลังมองขึ้นไปเห็นป้อมฟิชเชอร์แมน และโบสถ์มาธียาส


โบสถ์สีแดงโดดเด่นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ สีหลังคาก็สวยสดใส

Buda Castle


Four Season Hotel Gresham Palace  อยู่ที่เชิงสะพานเชนฝั่ง pest


Chain Bridge




ลอดใต้สะพานเชน








ด้านหน้าคือสะพานเอลิซาเบธ : Elisabeth Bridge 



ภูเขาทางขวามือคือ Gellert Hill มีความสูง 235 เมตร เป็นที่ตั้งของป้อมปราการซิตาเดลล่า (Citadelle)
ป้อมนี้สร้างเมื่อปี ค.ศ.1854  ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกยึดโดยโซเวียต และยังใช้เป็นที่สังหารชาวฮังการีกว่าสองหมื่นคน ตรงเชิงสะพานเอลิซาเบธมีบันไดเดินขึ้นสู่ยอดเขาได้

Liberation Monument : อนุสาวรีย์เสรีภาพ
สร้างอุทิศให้กับผู้เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 
ประติมากรรมผู้หญิงชูกิ่งปาล์มไว้เหนือศรีษะตั้งอยู่บนเสาสูง 14 เมตร สร้างขึ้นโดยสหภาพโซเวียต


Inner City Parish Church คือโบสถ์ยอดคู่สีเขียว อยู่ที่เชิงสะพานเอลิซาเบธฝั่งตรงข้าม 
เป็นโบสถ์ประจำเขตการปกครองทางศาสนาชั้นใน ถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแกที่สุดทางฝั่ง pest
ถัดมาทางด้านข้างคือโบสถ์ Ortodox Templom มีหอคอยข้างหนึ่งยังไม่ได้รับการซ่อมแซม


เรือวกกลับที่สะพานนี้ค่ะ
ด้านหลังคือโรงแรม Budapest Marriott Hotel เป็นอาคารสมัยใหม่หลังแรกๆของที่นี่


Vigado Concert Hall คืออาคารที่อยู่ติดกับโรงแรม
This Hall is the second largest and the most beautiful concert hall in Budapest.


เรือแล่นย้อนกลับมาถึงสะพานเชนแล้ว




บริเวณทางเดินริมแม่น้ำที่มีคนมุงเยอะๆนั้นคือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งของที่นี่
The Shoes on the Danube Bank
เราค่อยขึ้นไปถ่ายรูปจากบนบกกันค่ะ


เรือแล่นมาถึงสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแล้วค่ะ




Hungary's Parliament : อาคารรัฐสภาฮังการี
สร้างในปี ค.ศ.1885-1902 โดยสถาปนิกชื่อ Imre Steindl  สไตล์นีโอโกธิค
เลียนแบบมาจากอาคารรัฐสภาอังกฤษที่สะท้อนเงาลงแม่น้ำเทมส์


อาคารนี้ยาว 268 เมตร กว้าง 123 เมตร รอบๆอาคารประดับด้วยรูปปั้นของผู้นำและบุคคลสำคัญ 88 รูป ยอดโดมปลายแหลมสูง 96 เมตร และมียอดแหลมเล็กๆอีก 22 ยอด


ภายในเป็นสำนักงานของหน่วยงานต่างๆ 200 หน่วยงาน เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้บางส่วน


Hungary's Paliament and Hungary's Wine


ใกล้ถึงปลายทางแล้วค่ะ เข้าไปนั่งพักด้านในก่อน




เวลา 11:00 น.เรือกลับมาถึงท่า ใช้เวลาในการล่องเรือ 30 นาที


Shoes on the Danube Bank
ใกล้เที่ยงแล้วพวกเราไม่มีเวลาเดินมาชมที่ลานรองเท้านี้ค่ะ เลยต้องถ่ายรูปจากบนรถแทน
อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฝั่ง pest ห่างจากอาคารรัฐสภามาทางสะพานเชนประมาณ 300 เมตร
มีรองเท้าหล่อจากโลหะวางเรียงรายริมแม่น้ำจำนวน 60 คู่ เป็นระยะทางยาว 40 เมตร


อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงชาวยิวหลายหมื่นคนที่ถูกยิงโดยรัฐบาลฮังการีภายใต้ชื่อ Arrow Cross
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยชาวยิวจะถูกต้อนให้มายืนริมแม่น้ำดานูบที่เย็นจัด โดนบังคับให้ถอดเสื้อ ถอดรองเท้า(เพราะเป็นของหายาก) ให้ทุกคนหันหน้าไปสู่แม่น้ำแล้วยิงทิ้งลงแม่น้ำ


ภาพนี้จาก wikipedia

ที่บริเวณนี้มีป้ายเหล็กเขียนคำระลึกไว้ 3 ภาษาคือ ฮังการี อังกฤษและฮิบรู (ภาพนี้จาก wikipedia)

เวลา 11:30 น.เดินทางเข้ามาทานอาหารในเมืองฝั่ง pest


มีของขายตามริมถนนมากมายราคาไม่แพง คนที่นี่ใช้บริการ tram เป็นหลักเพราะวิ่งกลางเมืองเลย


ทานอาหารจีนค่ะ ชื่อร้าน China-town Restaurant อยู่บนถนน Nepszinhaz St.




ทานอาหารเสร็จก็ออกมาเดินชมตึกเก่าๆ แต่ละตึกก็เป็นร้านอาหาร ร้านขายของและโรงแรม


ด้านหลังคือโรงแรม Courtyard by Marriott Budapest City Center

เวลา 13:00 น.เดินทางออกจากเมืองบูดาเปสต์ค่ะ

ตอนนี้เราข้ามสะพาน Petofi hid ส่วนสะพานสีเขียวด้านหน้าคือสะพานเสรีภาพ (Liberty Bridge)


อาคารที่มีหลังคาแปลกๆนั้นคือ ร้านอาหาร และ New Budapest Gallery
ได้เวลาเดินทางต่อไปประเทศออสเตรีย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น