TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2561/03/28

1.ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle)

 วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2561

เวลา 14:30 น.ไปรับมะปรางที่ ร.ร.สตรีวิทยา หลังจากสอบ IJSO เสร็จ ก็รีบเดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิ
เวลา 16:00 น.เดินทางมาถึงสนามบิน ให้มะปรางเปลี่ยนเสื้อผ้า และเอาของที่ใช้แล้วใส่กล่องส่ง ปณ.กลับบ้านจะได้ไม่เปลืองน้ำหนักเวลาเดินทาง เสร็จแล้วก็ไปทานอาหารเย็น
เวลา 18:00 น.เช็คอินเพื่อเดินทางไปมิวนิค ประเทศเยอรมัน โหลดกระเป๋าและผ่าน ตม.ยังเหลือเวลาอีก 2 ชม.คุณป๋าเลยพาไปนั่งเล่น ทานขนมที่ King power lounge


เวลา 20:40 น.ออกเดินทางสู่เมืองมิวนิค โดยเที่ยวบิน QR 835 มีอาหารมื้อเย็นและเครื่องดื่มบริการ

เวลา 00:15 น.เดินทางถึงสนามบินโดฮา การ์ต้า แวะเปลี่ยนเครื่อง


ได้พักครึ่งทางก็สบายดีค่ะ เข้าห้องน้ำ เดินเล่นสักพักให้หายเมื่อยขา
เวลา 02:40 น.ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน QR 059


วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561 

ใกล้จะถึงเมืองมิวนิคแล้ว ทานอาหารเช้าบนเครื่องก่อนลงค่ะ
ต้องปรับเวลานาฬิกาด้วยนะคะ ตอนนี้ที่เยอรมันช้ากว่าประเทศไทย 6 ชม.

มองจากหน้าต่างเครื่องบินลงไปข้างล่างมีหิมะปกคลุมมากมาย 

เห็นเทือกเขาแอลป์เป็นแนวยาว

เวลา 7:00 น.เครื่องลงจอดที่สนามบิน หิมะกำลังตกอากาศหนาวมากๆประมาณ 0 องศา

ใช้เวลาในการผ่าน ตม.ที่มิวนิคนานพอสมควรร่วมๆชั่วโมงเพราะการจัดระเบียบไม่ดี นักท่องเที่ยวไม่มีการต่อแถว แซงคิวกันวุ่นวายมากๆ


เดินออกมานอกสนามบิน อากาศเย็นสบายที่สุดเลยค่ะ หิมะขาวโพลนไปหมด

มะปรางขอวิ่งเล่นบนหิมะก่อน

สนามบินมีขนาดไม่ใหญ่ คนก็ไม่มากดีค่ะ


เวลา 8:30 น.ขึ้นรถบัส เพื่อเดินทางไปปราสาทนอยชวานสไตน์ หมู่บ้านชวานเกา ( schwangau) ระยะทางประมาณ 160 กม.

ระยะทางไม่ไกลแต่ใช้เวลาในการเดินทางนานเพราะหิมะตกทำให้ต้องปิดถนนเป็นบางช่วง
เพื่อให้รถมากวาดหิมะ


วิวสองข้างทางสวยงามดูเหมือนอยู่ในเทพนิยาย
 ทำให้พวกเราไม่เบื่อกับการนั่งรถนานๆเลยค่ะ ถ่ายรูปกันไปตลอดทาง

เวลา 10:30 น.เดินทางมาถึงหมู่บ้านชวานเกา แวะรับประทานอาหารเที่ยงก่อนค่ะ 
ท้องเริ่มหิวมากแล้ว เพราะจริงๆตอนนี้ที่เมืองไทยก็เป็นเวลา 16:30 น.

ร้านอาหารของเรามื้อนี้อยู่นอกเมือง แต่วิวรอบๆสวยมากๆ


ขอเดินเล่นถ่ายรูปก่อนระหว่างรออาหารค่ะ


ร้านอาหารชื่อ Brunnenstube schwangau 
เป็นร้านเล็กๆแต่มีลูกค้าเยอะค่ะ เห็นได้จากมีรถจอดหลายคัน

เข้าไปนั่งทานในร้านดีกว่าค่ะ ข้างนอกอากาศเย็นมาก

อาหารพื้นเมืองเริ่มด้วยซุป ปิดท้ายด้วยไอศกรีมวนิลาฟรุตสลัด หวานหอมอร่อย


เมนคอร์สคือสเต็กหมู ไส้กรอกเยอรมัน อร่อยถูกปากค่ะ ทานหมดเรียบ

ทานอาหารเสร็จก็ออกมาเดินเล่นกันต่อค่ะ




ลักษณะของบ้านแถวนี้จะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวหลังเล็กๆน่ารักดีค่ะ



รั้วที่กั้นก็เป็นรั้วระแนงไม้เตี้ยๆ มองเข้าไปเห็นภายในบริเวณบ้านหมดเลย

หมู่บ้านชวานเกาอยู่ใกล้เมืองฟุสเซน (Fussen) ทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรีย

เดินทางต่อไปยังปราสาทนอยชวานสไตน์ อยู่ห่างจากร้านอาหารนี้เพียง 5 กม.เองค่ะ




เวลา 12:00 น.ก็มาถึงแล้วค่ะ ใช้เวลาเดินทางแค่ 10 นาที รถบัสจอดให้เราลงที่ด้านล่าง


รีบเดินไปที่ร้านขายตั๋วกันก่อนค่ะ


ค่าตั๋วคนละ 13 € พวกเราชมแค่ปราสาทนอยชวานสไตน์อย่างเดียว 
ตั๋วจะระบุเวลาที่เข้าชมด้วยค่ะ ต้องไปต่อแถวเข้าชมตามเวลาเท่านั้น มีแผ่นพับแถมให้ 1 อัน


ช่วงนี้มีหิมะตก รถบัสที่ขึ้นปราสาทจะหยุดให้บริการต้องเดินขึ้นเขาไปเองค่ะ
ปกติรถบัสจะวิ่งตามเส้นสีเหลืองไปจอดให้ลงที่จุดชมวิวตรงสะพานมาเรียด้านหลังปราสาท
แต่พวกเราเดินขึ้นเองก็ไปตามเส้นลายจุด เหมือนกับเส้นทางรถม้า


ก่อนเดินขึ้นเขาเก็บภาพที่ด้านล่างก่อนค่ะ

ปราสาทสีเหลืองด้านหลังคือ ปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Schloss Hohenschwangau)



ปราสาทนี้เดิมสร้างโดยครอบครัวของอัศวิน ต่อมาพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 ทรงซื้อและทำการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน สำหรับพระองค์ พระชายา และลูกชายทั้งสองคน คือเจ้าชายลุดวิก(Ludwig) และเจ้าชายออทโท(Otto)


เริ่มเดินขึ้นเขากันค่ะ ดูระยะทางจาก google map ประมาณ 1.4 km.จะถึงปราสาทค่ะ

หิมะเริ่มละลายทำให้พื้นถนนค่อนข้างลื่นแฉะ ต้องเดินแบบระมัดระวัง
มองลงไปก็มีคนเดินตามมาเยอะค่ะ ด้านล่างคือร้านขายของที่ระลึก และโรงแรม

ถ้าเดินไม่ไหวก็มีรถม้าให้บริการด้วยนะคะ




มีป้ายบอกตลอดทางเดินไม่หลงทางแน่นอน

ข้อดีของการเดินขึ้นเขาคือได้หยุดถ่ายรูปไปตลอดทางค่ะ



วิวสองข้างทางสวยมาก เต็มไปด้วยหิมะและต้นสนเป็นแนวยาว

การเดินขึ้นเขาในอากาศที่หนาวเย็นขนาดนี้ก็ทำให้เหนื่อยพอสมควร

มะปรางบอกว่าอากาศเย็นสบายมากๆ หน้าตาสดชื่นไม่เหนื่อยเลยค่ะ




กำแพงหิมะสองข้างทาง คล้ายๆ Japan Alps นิดๆค่ะ


ม้าที่นี่ตัวใหญ่มาก คงแข็งแรงสุดๆเพราะวิ่งขึ้นลงเขาวันละหลายรอบ




เดินมาได้ หนึ่งในสามของระยะทางแล้วค่ะ 
ไม่ต้องรีบเพราะเรายังมีเวลาเหลือมากกว่าจะถึงเวลาเข้าชมปราสาท 



บางส่วนที่สูงชันมาก ก็จะมีป้ายเตือน


น้ำตกเล็กๆไหลมาจากยอดเขา


เดินมาถึงครึ่งทางแล้วค่ะ

ตรงนี้จะเป็นที่พักครึ่งทางมีร้านอาหารบริการด้วยค่ะ ร้านสวยมาก
Schlossrestaurant Neuschwanstein


ด้านข้างมีร้านขายขนมคล้ายๆโดนัทราดน้ำเชื่อมกลิ่นหอมมากๆ มีคนรอต่อคิวกันยาว


จากด้านหลังของภัตตาคารจะเริ่มมองเห็นปราสาทแล้วค่ะ

ยอดหอคอยแหลมโดดเด่น

มะปรางมาเยือน


เห็นป้ายบอกทาง ใกล้จะถึงแล้วค่ะ


ตรงนี้เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปเพราะเป็นมุมกว้างมองเห็นตัวปราสาททั้งหลัง


Castle in Snow ขาวไปหมดเลยค่ะ คิดว่าอยู่ในเรื่อง Frozen เลยคะ

ข้างหลังคือทางขึ้นไปสะพานมาเรีย ( Marienbrucke ) เป็นมุมที่คนนิยมขึ้นไปถ่ายรูปปราสาท
แต่ตอนนี้เค้ากั้นไว้ห้ามขึ้นเพราะหิมะตก ทางจะลื่นมาก กลัวเกิดอันตราย



จุดจอดรถม้า เพื่อลงไปด้านล่าง ค่าบริการคนละ 3 €

รถม้าจอดรอผู้โดยสาร คันนึงนั่งได้หลายคน

เบื้องหลังค่ะ555

จากจุดจอดรถม้าเดินขึ้นอีก 10 นาที ในที่สุดพวกเราก็มาถึงยอดเขาแล้วค่ะ


ตอนนี้เวลา 13:01 น. พวกเราใช้เวลาเดินขึ้นเขามาประมาณ 40 นาที
ยังมีเวลาเหลืออีกมากเพราะรอบที่เราเข้าชมปราสาทคือ 468 เวลา 13:40 น.

ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Schloss Neuschwanstein) 
ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงโดดเด่น ทำให้ดูเหมือนปราสาทในเทพนิยาย

ตัวปราสาทด้านนอกกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุง 


มุมนี้เป็นระเบียงกระจกยื่นไปในหุบเขา เป็นจุดชมปราสาทที่สวยงามอีกแห่งค่ะ

ลานกว้างตรงนี้มีรั้วเหล็กกั้นโดยรอบ สามารถเดินถ่ายรูปวิวได้หลายมุมเลยค่ะ


จากลานนี้เดินขึ้นไปอีกนิดก็ถึงทางเข้าปราสาทค่ะ มีร้านขายของที่ระลึก ขายขนม และเครื่องดื่มด้วยค่ะ

ต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์


สร้างโดยพระเจ้าลุดวิคที่ 2 (Ludwig II)หรือเจ้าชายหงส์ขาว ในช่วง ค.ศ. 1845-1886
เพื่ออุทิศให้แก่ริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner ) คีตกวีเอกชาวเยอรมัน


ปราสาทสูงและใหญ่มาก ต้องถ่ายย้อนขึ้นไปจึงจะเห็นถึงยอดหอคอย

Schloss Neuschwanstein  มาจากคำในภาษาอังกฤษ คือ Schloss = castle , neu=new , schwan=swan , stein=stone  แปลเป็นไทยคือ ปราสาทหินหงส์ใหม่ 


แผนผังการเดินชมภายในปราสาท ทางเข้าอยู่ทางซ้ายมือ ทางออกอยู่ด้านหน้า

ถ้าขึ้นบันไดตรงนี้ไปก็เป็นจุดชมวิวอีกแห่งค่ะ แต่ตอนนี้ปิด เลยมายืนต่อคิวรอเวลาเข้าชมทัวร์ปราสาทค่ะ


เวลา 13:40 น.ได้เวลาเข้าชมปราสาทแล้วค่ะ ด้านในห้ามถ่ายรูป กระเป๋าที่นำเข้าก็ต้องมีขนาดเล็กเท่านั้น
พอเดินเข้าไปจะมีเจ้าหน้าที่แจกเครื่อง audio guide มีหลายภาษาและมีภาษาไทยด้วย 
แนะนำ ### ควรเอาหูฟังของเราเข้าไปด้วยค่ะ จะเป็น earphone หรือ headphone ก็ได้### 
จะได้สะดวกเวลาเดินชมไม่ต้องยกลำโพงขึ้นมาแนบหูตลอดเวลา

 เดินขึ้นไปชมห้องต่างๆทีละชั้น บันไดค่อนข้างแคบชันนิดหน่อย แต่ได้อรรถรสในการชมมากๆเพราะบรรยายได้ละเอียด 
ด้านล่างนี้คือรูปห้องที่สำคัญในปราสาท ถ่ายจากโบชัวร์ที่เค้าแจกให้ค่ะ ห้องต่างๆตกแต่งได้อย่างงดงามโดยการออกแบบของคริสเตียน แยงค์ ( Christian Jank) ซึ่งเป็นนักออกแบบโรงละคร ไม่ใช่สถาปนิก ทำให้ปราสาทนี้ได้รับการตกแต่งตามเรื่องราวของบทประพันธ์เรื่อง Swan Knight (Lohengrin)

เดินจนครบตามบรรยายใช้เวลาในการเดินทัวร์ประมาณ 50 นาทีค่ะ
 ก็คืนเครื่อง audio guide ให้เจ้าหน้าที่ แล้วจะออกมาเจอกับร้านขายของที่ระลึก
โปสการ์ดรูปถ่ายในปราสาทแผ่นละ 2.8 €


ซื้อของที่ระลึกเสร็จก็เดินออกมาด้านนอก จะพบกับแบบจำลองหอคอย

แบบจำลองของปราสาทนอยชวานสไตน์ที่เสร็จสมบูรณ์


ตอนนี้เราอยู่ชั้นบนสุดของปราสาท ต้องเดินลงกันไกลพอสมควร

ทางออกจากปราสาทอยู่ด้านหน้าค่ะ เก็บรูปสุดท้ายก่อนเดินลงเขา

ขาลงใช้เวลาเร็วกว่าตอนขึ้นเขาค่ะ แป๊บเดียวก็ใกล้ถึงด้านล่างแล้ว 

มองจากตรงนี้เห็นทะเลสาบ Alpsee อยู่ไม่ไกล

เวลา 16:00 น.เดินมาขึ้นรถบัสที่ลานจอดรถ ตรงนี้มองเห็นปราสาทด้วยค่ะ

ปิดท้ายด้วยภาพมุมสูงจากอินเตอร์เน็ต 


1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ทราบว่าขึ้นรถบัส จากสนามบินไปปราสาทเลยรึป่าวคะ รบกวนขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

    ตอบลบ