TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2566/12/30

2.APEC House-Haedong Younggungsa Temple-Jukseong Church-Eden Ski Resort-Countdown

 วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2567

ตื่นเช้ามาชมวิวชายหาดแฮอุนแดจากหน้าต่างห้องพัก

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ไปทานอาหารเช้ากันค่ะ

อาหารเช้ามีทั้งแบบอเมริกันและเกาหลี

บุลโกกิและข้าวผัดอร่อยมาก ทานเยอะเลยค่ะ

ทานอาหารเสร็จก็ลงไปเดินเล่นด้านล่าง

อุณหภูมิตอนนี้ประมาณ 10 องศา เย็นสบายดีค่ะ

เวลา 08:30 น.ออกเดินทางไปเที่ยวกันค่ะ


เดินทางมาถึง The Bay 101 อยู่ห่างจากที่พักประมาณ 500 เมตร

ตอนเช้าบรรยากาศเงียบสงบมาก

ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และเป็นที่สังสรรค์ยามค่ำคืน


ข้ามสะพานไปยังเกาะ Dongbaekseom แล้วเดินต่อไปทางทิศใต้

เช้านี้พวกเราจะไปชม Nurimaru APEC House ซึ่งตั้งอยู่ในสวน Dongbaek

Map of Dongbaek Park

ทางเข้า Nurimaru APEC House

สวนสาธารณะนี้อยู่ทางทิศใต้ของชายหาดแฮอุนแด เข้าฟรีค่ะ

ที่พื้นมีตัวเลขบอกระยะทางเดินที่จะไปยัง APEC House

Dongbaekseom Island
It was designated as a park in September 1, 1966. Located near the south end of Haeundae Beach.

The island is full of dongbaek and pine trees and is connected to the main land by a bridge. 

ภายในสวนเต็มไปด้วยต้นสนและต้นคามีเลีย (Dongbeak)


ด้านข้างมีทางเดินลงไปที่ชายหาด

ทางเดินขึ้นเขาไปยังรูปปั้นของ Choi Chi Won ผู้ตั้งชื่อชายหาดแฮอุนแด

Nurimaru APEC House (누리마루 APEC하우스)
It was the venue for the 2005 APEC Summit. 
Since then, it has been used as a memorial hall and a conference center. 

พวกเรามาถึงแต่เช้า ด้านในอาคารเปิดให้เข้าชมเวลา 09:00–18:00

Operating hours 09:00–18:00 Admission Free
Holiday First Monday of every month

There are two entrances to Nurimaru APEC House. You can enter the building from the gardens at the ground level or through the main entrance on the third floor.

ทางเข้าอาคารอยู่ที่ชั้นสามและชั้นหนึ่ง ยืนรอสักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาเปิดประตูให้เข้าชมค่ะ 

เดินผ่านประตูเข้ามาก็จะพบกับภาพสีฝังมุกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นผลงานของ Kim Gyu-Jang
มีสัญลักษณ์แห่งความอายุยืน 12 อย่างบนชิ้นงาน ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ ก้อนเมฆ ภูเขา ก้อนหิน น้ำ 
นกกระเรียน กวาง เต่า ต้นสน สมุนไพรคงความอ่อนเยาว์ ต้นไผ่ และลูกท้อในตำนาน

A huge painting in the lobby with the traditional Korean style. 
The painting depicts Sibijangsaengdo (the twelve symbols of longevity in the East Asian culture).
It is created with mother-of-pearl lacquerware.

เพดานตกแต่งด้วยลวดลายเหมือนในพระราชวัง

ห้องด้านในอาคารเข้าชมฟรีค่ะ ที่ผนังมีเวลาของประเทศในกลุ่ม APEC

 APEC Memorial room
เป็นห้องที่ถัดมาจากล็อบบี้

 The Memorial exhibits information about the member economies. 

It also explains the history of APEC.

ห้องนี้จัดแสดงประวัติความเป็นมาและเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศสมาชิก APEC

Model of Nurimaru APEC House ( three-story building) 

แบบจำลองอาคารนูริมารุ หลังคาทรงโดม มีสามชั้น

ภาพจากการประชุม APEC ครั้งที่ 13 เมื่อปี ค.ศ. 2005

 The replica of meals served to the leaders during the summit. 

Hanbok, the Korean traditional clothing.

ทางไปห้องประชุม APEC อยู่ที่ชั้นบน ถัดจาก APEC Memorial room

The main conference room where the 2005 APEC leaders had a meeting sits on the top floor. 

This conference room is open to the public and preserved as it was in 2005.

ห้องประชุมกว้าง เพดานสูงโปร่งโล่ง

APEC is the abbreviation for Asia-Pacific Economic Cooperation. 
APEC is a regional economic forum with 21 members in the Pacific Rim.The goal of the organization is to create greater prosperity for its member countries by integrating regional economies.

ห้องนี้เคยใช้จัดการประชุม APEC ครั้งที่ 13 ที่เมืองปูซานเป็นเจ้าภาพ
ด้านในมีโต๊ะและเก้าอี้ของผู้นำทั้ง 21 ประเทศ จัดวางไว้ตำแหน่งเดิม

เดินชมรอบๆห้องจนเจอกับโต๊ะผู้นำประเทศไทยแล้วค่ะ

ออกไปเดินเล่นด้านนอกค่ะ

ห้องนั่งเล่นเป็นกระจกใสมองเห็นวิวทะเลโดยรอบ 


ประภาคารสีขาวตั้งอยู่ที่แหลมฝั่งตะวันออก


ตรงประภาคารเป็นมุมถ่ายรูปที่สวยมาก แต่ช่วงนี้ปิดอยู่ค่ะ


เดินลงบันไดไปที่ชั้นสอง

Conference rooms for major events are on the second floor.
 These rooms hold International conferences, banquets, and more events.

21 member APEC include Australia, Brunei, Canada, Chile, China, Hong Kong, Indonesia, Japan, Malaysia, Mexico, New Zealand, Papua New Guinea, Peru, Philippines, Russia, Singapore, South Korea, Taiwan, Thailand, United States, and Vietnam.

ทางลงไปเดินเล่นที่สวนริมทะเล

The lighthouse over the jeongja, a traditional Korean pavilion, is a unique photo spot.

There are two outdoor gardens on the ground level: 
Jayumadang (자유마당, Freedom Garden) and Pyeonghwamadang (평화마당, Peace Garden). 

บริเวณนี้คือจุดถ่ายรูปร่วมกันของกลุ่มผู้นำ APEC ในชุดประจำชาติเกาหลี เมื่อ 9 พ.ย. 2005

This is where the leaders of APEC's 21 member economies posed for the Official Photograph.

บนพื้นมีป้ายชื่อของแต่ละประเทศ


We can see the whole length of Gwangan Bridge that stretches over Gwangalli Beach from here.

จากมุมนี้มองเห็นวิวสะพานควังอันอยู่ทางทิศตะวันตก

Gwangan Bridge 

เดินต่อไปตามทางเดินริมทะเล

ลมแรงมากไม่กล้าตั้งกล้องถ่ายรูปเลยค่ะ


เดินกลับขึ้นไปที่ทางเดินในสวนเพื่อไปเก็บภาพอาคารนูริมารุ

The architecture of Nurimaru APEC House is a great example of the combination of modern design
 and traditional Korean style. 

The design of the building resembles a traditional Korean pavilion called "Jeongja (정자)"
 and the ridgeline of Dongbaek Island is the inspiration for the shape of the roof.

อาคารนี้ก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบเกาหลีโบราณ


ทางขึ้นห้องน้ำสาธารณะ

Dongbaek (동백) is the Korean word for the camellia flower.
 Camellias usually blossom throughout November to March.

สองข้างทางต็มไปด้วยต้นคามีเลียซึ่งเป็นที่มาของชื่อเกาะ ช่วงนี้กำลังออกดอกเลยค่ะ


Old Dongbaekseom Pier

เดินกลับไปที่ The Bay 101

The Bay 101 (더베이101)
It is located in a culture and art complex in Haeundae area, attracting many visitors to the area.

ฉากหลังเต็มไปด้วยตึกสูงตั้งอยู่ริมอ่าว

 คนนิยมมาเดินเล่นและถ่ายรูปกันช่วงกลางคืนเพราะตึกพวกนี้จะเปิดไฟสวยมาก


Bears Lantern

โคมไฟรูปหมีสามตัวตั้งอยู่ด้านหน้าอาคาร


เดินเล่นถ่ายรูปเสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อค่ะ

เวลา 10:00 น.เดินทางมาถึงวัดแฮดง ยงกุงซา

เดินจากลานจอดรถเข้าไปในวัดประมาณ 200 เมตร

วันนี้เป็นวันสิ้นปีทำให้ในวัดมีคนมาเที่ยวหนาแน่นมาก

สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า พวกเรารีบเดินเข้าไปด้านในก่อนค่ะ ตอนกลับค่อยออกมาแวะซื้อของ


เดินมาถึงทางเข้าวัดแล้วค่ะ

วัดนี้เปิดเวลา 04:30-18:50 น. คนนิยมมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเล

The 12 Animals of the Chinese Zodiac line up along the entrance to the temple. 

ทางซ้ายมือคือรูปสลักหินของสัตว์ 12 ชนิดที่เป็นสัญลักษณ์ของจักราศี

12 Animals : Rat,Ox,Tiger,Rabbit,Dragon,Snake,Horse,Goat,Monkey,Rooster,Dog and Pig

มป อยากเป็นเสือ

เก็บภาพกับสัตว์ประจำปีเกิดของแต่ละคน

บางตัวจะหน้าตาคล้ายๆกัน ให้นับเรียงลำดับตามปีได้เลยค่ะ

The beautiful relief dedicated to an eleven-headed Gwaneum (The Bodhisattva of Compassion).

รูปสลักเจ้าแม่กวนอิม 11 เศียร บนแผ่นหินขนาดใหญ่



เดินตรงไปจะพบกับเจดีย์สีขาวเจ็ดชั้น

The seven-story pagoda with a black ceramic tire at the base.
This tire shrine say "Traffic Safety Prayer Pagoda". It is to pray for prevent car accidents.

ด้านล่างเจดีย์มีล้อยางสีดำ มีไว้สำหรับให้คนมาขอพรเพื่อให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ

ด้านหลังเจดีย์มีบันไดทางลง 108 ขั้น เพื่อไปยังวิหารริมทะเล

Haedong Yonggungsa Temple is situated on the coast of the north-eastern portion of Busan. This superb attraction offers visitors the rare find of a temple along the shore line; most temples in Korea are located in the mountains. Haedong Yonggungsa Temple was first built in 1376 by the great Buddhist teacher known as Naong during the Goryeo dynasty. Haesu Gwaneum Daebul (Seawater Great Goddess Buddha), Daeungjeon Main Sanctuary, Yongwangdang Shrine, Gulbeop Buddhist Sanctum (enclosed in a cave), and a three-story pagoda with four lions can all be seen looking out over the ocean. The main sanctuary of the temple was reconstructed in 1970 with careful attention paid to the colors that were traditionally used in such structures. On the right-hand side, inside the a cave, is a uniquely designed Buddhist sanctum, while situated just in front of the main sanctuary is a three-story pagoda with four lions. The four lions symbolize joy, anger, sadness, and happiness. Other special sites at the temple are the 108 stairs and stone lanterns lining the rocky landscape. After going down the 108 steps, one will be delighted with the beauty of the temple. Midway down the 108 steps one can stop and enjoy the calming sounds of the waves, and view the majestic sunrise. Many people often come to this spot on New Year's Day to make a wish for the new year as they watch the sun come up. April is an especially beautiful time of year with cherry blossoms in full bloom. The birth of Buddha is also celebrated in the fourth month of the lunar calendar and offers a spectacular night view as the temple area is aglow with lit lanterns.

พวกเราเคยเดินลงบันไดไปแล้วเมื่อครั้งก่อน คราวนี้เลยใช้อีกเส้นทางค่ะโดยใช้ทางราบผ่านซุ้มไผ่

จุดชมวิว

เจดีย์สีขาวสามชั้นริมทะเล

The beautiful and magnificent three-story pagoda with 4 lions.


เดินลงเนินไปยังวิหารด้านล่าง

วิหารพระนอน ตั้งอยู่ทางขวาของวิหารหลัก

Reclining Buddha Hall

บนเพดานประดับด้วยโคมไฟเป็นแถวยาว



Daeungjeon Main Hall

ภายในวิหารหลักของวัด มีพระพุทธรูปตั้งอยู่บนแท่นตรงกลางสามองค์

There are three golden statues of Buddha.


The three-story pagoda with 4 lions is in front of the main building.

เจดีย์สามชั้นตั้งอยู่ตรงเชิงเขาริมทะเล

The large golden Podae Hwasang is next to the main hall. 

ด้านข้างวิหารหลักมีรูปปั้นพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่สีทอง


เดินลอดใต้สะพานลงบันไดไปยังชั้นล่าง


บริเวณแหลมด้านหน้ามีพระพุทธรูปสีทองตั้งอยู่บนโขดหินริมทะเล
เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากทำให้มีคนไปไหว้พระขอพรกันมากมาย

พวกเราไม่ได้เดินไปไหว้พระที่ริมทะเลเพราะคนหนาแน่นมาก

Lucky coin divination
อธิษฐานแล้วโยนเหรียญลงไปด้านล่าง

Haedong Yonggungsa Temple is situated on the coast of the north-eastern portion of Busan. 
 It was first built in 1376 by the great Buddhist teacher known as Naong during the Goryeo dynasty.
Most temples in Korea are located in the mountains.

วัดแฮดอง ยงกุงซา เป็นวัดพุทธเก่าแก่ของเมืองปูซาน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งแนวโขดหินทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองปูซาน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1376 โดยพระอาจารย์ Naong สมัยราชวงศ์โครยอ
วัดส่วนใหญ่ของเกาหลีจะสร้างอยู่ในหุบเขาหรือในป่า แต่วัดแฮดอง ยงกุงซาเป็นวัดที่สร้างอยู่ริมทะเล

 ตัววัดหันหน้าไปทางทะเลฝั่งตะวันออก จึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม 
ชาวเกาหลีนิยมมาชมพระอาทิตย์แรกของปีในวันขึ้นปีใหม่ที่วัดนี้เพราะเชื่อว่าจะทำให้โชคดีตลอดปี

ถ่ายรูปและชมวิวเสร็จก็เดินขึ้นบันได 108 ขั้น ไปออกด้านหลังเจดีย์เจ็ดชั้น

เดินย้อนกลับทางเดิม

เก็บภาพกับสัตว์ประจำปีเกิดก่อนกลับ

เดินออกจากวัดไปซื้อของฝากและขนมทานค่ะ

ร้านขายของมงคล ของที่ระลึก


ร้านขายขนม ของกินเล่น

มปขอแวะซื้อขนมโฮต็อก ทานตอนร้อนๆอร่อยมากค่ะ

เดินทางออกจากวัดเข้ามาในเมืองด้านหน้าคือสวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World Adventure Busan)

เวลา 13:00 น.แวะทานอาหารเที่ยงที่ Dongbusan Tourist complex


Korean BBQ buffet

มื้อนี้ทานหมูย่างเกาหลีแบบเตาถ่านกันค่ะ เป็นบุฟเฟ่ต์เติมหมูได้ไม่อั้น

หมูย่างอร่อยมาก ทานกับเครื่องเคียงหลายอย่าง ซุปกิมจิ หนวดปลาหมึก สาหร่าย ข้าวโพดอบเนย
ทานอาหารเสร็จก็ออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อค่ะ

เวลา 14:00 น.เดินทางมาถึงหมู่บ้าน Gijang-gun ห่างจากตัวเมืองปูซานประมาณ 20 กม.

ลงรถแล้วเดินต่ออีกนิด โบสถ์ด้านหน้าคือจุดหมายค่ะ

Jukseong Church (Dream Filming Set) (죽성성당(드림세트장))

สถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกาหลีเรื่อง Dream ในปี ค.ศ. 2009

โบสถ์ชุกซองสร้างขึ้นมาเหมือนกับโบสถ์คาทอลิกทุกอย่างเพื่อใช้ในซีรีส์เท่านั้น

Jukseong Church is a drama set built for the SBS drama "Dream (2009)." 

The drama aired a long time ago but this church has become a must-see for travelers visiting Gijang.

ด้วยความสวยงามของตัวโบสถ์และวิวทะเลรอบๆทำให้มีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปจำนวนมาก 
เลยไม่ถูกรื้อถอนหลังจากซีรี่ส์จบ และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของหมู่บ้านนี้ค่ะ

โบสถ์สีขาวโดดเด่นด้วยหลังคาสีแดงมีฉากหลังเป็นท้องฟ้าและน้ำทะเล

The inside of the cathedral is operated as a gallery.

ด้านในโบสถ์เป็นแกลเลอรี่ ตอนนี้ปิดอยู่ค่ะ

วิวทิวทัศน์โดยรอบตัวโบสถ์งดงาม มีโขดหินลักษณะแปลกตาและล้อมรอบด้วยทะเล

Boogi, the proud mascot of Busan, is the port city's most-beloved seagull and arguably. 

A white-feathered, chubby bird is fluttering across Korea, as the country is ramping up promotional efforts to bring the World Expo 2030 to the southeastern city of Busan.

มุมถ่ายภาพคู่มาสคอตประจำเมืองปูซานกับ Boogi ซึ่งเป็นนกนางนวลตัวกลมสีขาว

บริเวณรอบๆโบสถ์ประดับด้วยฉากที่ใช้ในซีรี่ส์

ป้ายบอกตำแหน่งที่ใช้ถ่ายทำซีรี่ส์


The seaside landscape is like a painting from the Middle Ages.

It has a special mood because of its location in a small fishing village. 
The landscape is as pretty as a picture. 

ตัวโบสถ์และวิวสวยงามเหมือนภาพวาด


มีทางลงไปเดินเล่นที่โขดหินริมทะเล

ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆแต่มีนักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยวถ่ายรูปกันเยอะมาก

มีร้านอาหารและคาเฟ่ริมทะเล

เดินเล่นถ่ายรูปเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ

เวลา 16:00 น.เดินทางมาถึงเมือง Gyeongsangnam-do อยู่ทางทิศเหนือของปูซานประมาณ 50 กม.
Eden Valley Ski Resort

พวกเรามาเล่นสโนว์บอร์ดกันค่ะ ค่าเข้าคนละ 18,000 วอน
จะได้สายรัดข้อมือคนละอันเล่นได้ไม่จำกัด จนกว่าสวนจะปิด

เดินเข้าไปในลานหิมะกันเลยค่ะ

บริเวณนี้เป็นลานหิมะสำหรับเด็ก

ลานสกีที่นี่มีพื้นที่กว้างขวางอยู่ในหุบเขาอากาศเย็นมาก ภายในแบ่งเป็นโซนสกี และสโนว์บอร์ด

เนินหิมะด้านหน้าคือลานสโนว์บอร์ด

เครื่องทำหิมะเทียม

สกีรีสอร์ทนี้อยู่ทางใต้สุดของเกาหลีใกล้เมืองปูซาน
ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขากาจีซาน ภูเขาชองซาน และภูเขาชินบูลซาน


ไปต่อคิวเพื่อเล่นสโนว์บอร์ดกันค่ะ

เลือกห่วงสำหรับนั่งสไลด์คนละอัน แล้วถือขึ้นไปบนเนินด้านบนสุด

การขึ้นเนินของที่นี่เป็นทางเลื่อนอัตโนมัติ สบายที่สุดเลยค่ะยืนแป๊บเดียวก็เลื่อนไปถึงด้านบนแล้ว

จนท.จะปล่อยให้สไลด์ลงมาทีละ 5 คน มีจนท.คอยดูแลทั้งข้างบนและข้างล่าง

คนที่น้ำหนักมากก็จะสไลด์ลงมาอย่างเร็ว ส่วนคนน้ำหนักน้อยแบบมป จะสไลด์ได้ช้าๆ

สนุกมากๆเล่นกันคนละร่วมสิบรอบจนลานปิดเลยค่ะ

ด้านล่างมี จนท.คอยดูไม่ให้สไลด์ออกนอกลาน

ลานปิดเวลา 17:00 น. พวกเราเลยมานั่งเล่นกันต่อด้านนอก

สโนว์บอร์ดที่นี่ใช้เป็นห่วงยางหุ้มผ้า มีที่จับและสายลาก


หิมะเทียมเหมือนน้ำแข็งใส

ปั้นตุ๊กตาหิมะได้ค่ะ

พื้นหิมะไม่ลื่น วิ่งเล่นได้


จนท.กำลังทำความสะอาดลานหิมะและเก็บอุปกรณ์

ลานเล่นสโนว์บอร์ดมีขนาดไม่ใหญ่และไม่ชันมาก ทางซ้ายมือคือทางเลื่อนไฟฟ้าขึ้นเนิน

จนท.เก็บอุปกรณ์ที่ลานเสร็จแล้ว ขอเข้าไปเก็บภาพเป็นที่ระลึกค่ะ

ลานหิมะมีฉากหลังเป็นภูเขาและกังหันลม

Open : Day time 09:30-17:00 / Night time 19:00-01:00 (for Ski zone)


ด้านข้างมีท่อลมสีส้มกันกระแทกเวลาสไลด์ลงมาด้านล่าง


ลานสำหรับเด็กยังไม่ปิด

ตอนนี้เริ่มมืด ลานกิจกรรมปิดแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับค่ะ

เวลา 19:00 น.กลับมาถึงย่านที่พักแฮอุนแด แวะทานอาหารเย็น มื้อนี้ทานไก่ทอดเกาหลีกันค่ะ
" BBQ Olive chicken cafe "

ร้านอยู่ชั้นสองเดินขึ้นบันไดไปตามป้ายเลยค่ะ

Fried Chicken in sweet and chili sauce & Assorted Fried Patato

มป เลือกสั่งมาสองเซ็ต จานใหญ่มากค่ะ

มีเครื่องเคียงเป็นหัวไชเท้าดองขอเพิ่มได้ ทานกันแทบไม่หมด

ทานอาหารเสร็จก็เดินเล่นชมแสงสีวันส่งท้ายปี


Haeundae Light Festival at Haeundae Square (Gunam-ro)


งานแสงสีจัดบนเกาะกลางของถนน Gunum-ro ยาวไปจนถึงชายหาดแฮอุนแด


วันนี้อากาศดีมากไม่มีฝนเหมือนเมื่อวาน เดินเล่นสบาย


ซุ้มไฟเปลี่ยนสี



มุมถ่ายรูปมากมาย



มีต้นคริสต์มาสอยู่ตรงสุดถนน



The New Year's Bell-ringing Ceremony in Busan is an event for local residents and tourists
 to wrap up the end of the year and greet a new year.

 It is a representative winter themed festival of Busan, held December 31 to January 1.



ยิ่งมืดคนยิ่งหนาแน่นเพราะคนมารอเค้าท์ดาวน์กัน

Haeundae Beach is set to welcome in the Year of the Dragon.

ยังเหลือเวลาอีก 4 ชั่วโมง พวกเราเลยเดินกลับโรงแรมไปอาบน้ำและพักผ่อนกันก่อนค่ะ


เวลา 23:40 น.เดินจากโรงแรมมารอชมงานเค้าท์ดาวน์

ข้ามถนนไปที่ชายหาดแฮอุนแด

งานเค้าท์ดาวน์จัดขึ้นที่ชายหาดแห่งนี้ คนเริ่มมายืนจองที่รอชมพลุ

Haeundae Light Festival at Haeundae Beach

โคมไฟหลากรูปและหลากสีบริเวณชายหาด

มีงานคอนเสิร์ตด้วยค่ะ

A countdown event begins at 11:55 p.m. and an amazing drone show begins at midnight.

พอถึงเวลา จนท.ก็จุดพลุ






สวยตระการตามากๆเลยค่ะ

Happy New Year 2024

งานเลิกแล้วก็เดินกลับโรงแรมไปพักผ่อนค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น