TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2566/09/04

Geneva "Capital of Peace" (เที่ยวเจนีวา เมืองแห่งสันติภาพ)

 วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566

วันนี้พวกเราออกเดินทางแต่เช้า เช็คเอ้าท์แล้วลากกระเป๋าไปสถานีรถไฟค่ะ

ด้านหน้าโรงแรมคือโบสถ์คาทอลิก Herz-Jesu-Kirche (The Sacred Heart Church)

 Dancing Cones : express the elements of rhythm and movement of music.

ด้านข้างคือสะพานคนเดินเพื่อข้ามไปโบสถ์คาทอลิก

เดินลากกระเป๋าไปตามสะพาน Stühlinger Bridge

สะพานนี้เป็นสะพานคนเดินขนานกับทางรถรางที่วิ่งในเมือง 

ลงลิฟต์ไปยังสถานีรถไฟชั้นล่าง


วันนี้พวกเราจะนั่งรถไฟข้ามประเทศไปสวิตเซอร์แลนด์


เวลา 07:00 น.รถไฟมาตรงเวลา มีที่วางกระเป๋าหาที่นั่งแล้วทานอาหารเช้าเป็นข้าวกล่องที่แม่ตุ๊กทำมาค่ะ

เวลา 07:50 น.แวะเปลี่ยนขบวนรถไฟที่สถานี Basel SBB

นั่งรถไฟต่อไปยังเมืองเบิร์น (Bern) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

เวลา 09:00 น. เดินทางมาถึง Bern Bahnhof

ลากกระเป๋าไปที่พัก

คุณป๋าจองโรงแรมที่อยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟเลยเพื่อความสะดวกในการเดินทาง

Hotel City am Bahnhof

ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน พวกเราเลยเข้าไปฝากกระเป๋าด้านในโรงแรมและเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย

รูปจากเวปไซต์ของโรงแรม จะเห็นว่าที่พักอยู่ห่างจากสถานีรถไฟไม่ถึง 100 เมตร ทำเลดีมาก

เวลา 09:30 น. นั่งรถไฟไปเที่ยวกันต่อค่ะ รถไฟของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ส่วนมากมีสองชั้น 
คนน้อย เลือกที่นั่งได้ตามสบายไม่ต้องจองเลยค่ะ

นั่งรถไฟลงใต้จุดหมายคือเมืองเจนีวา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

คุณป๋าขอพักเอาแรง หลับสนิทเลยค่ะ


วัวนอนกินหญ้าท่ามกลางแดดอ่อนๆ


บนรถไฟไม่มีฟรีไวไฟเหมือนในเยอรมนี

ภูมิประเทศสองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวสดใส



Romont bahnhof





Lake Geneva (ทะเลสาบเจนีวา)

ทางรถไฟขนานไปกับทะเลสาบเลือกที่นั่งทางฝั่งซ้ายจะเห็นวิวสวยมากค่ะ

ฝั่งตรงข้ามคือประเทศฝรั่งเศส

ทะเลสาบเจนีวาตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีพื้นที่ 582 ตารางกิโลเมตร 

Lake shared between Switzerland and France. 


พื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลสาบอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์และมีบางส่วนอยู่ในเขตประเทศฝรั่งเศส 

60% of the lake belongs to Switzerland and 40% to France.

 It is one of the largest lakes in Western Europe.

บริเวณพื้นที่ลาดเอียงริมทะเลสาบเต็มไปด้วยไร่องุ่น


Grapes grown on the slopes surrounding Lake Geneva.


แหล่งผลิตไวน์ชั้นดีของประเทศ


Vineyard Terraces


Lake Geneva is in the shape of a crescent, with the horns pointing south.

ทะเลสาบเจนีวามีรูปร่างทรงพระจันทร์เสี้ยวปลายแหลมชี้ลงทางทิศใต้


Lausanne Station (Gare de Lausanne)


เวลา 11:20 น. เดินทางมาถึงเมืองเจนีวา (Gare de Genève)

นั่งรถไฟไปที่ทำการสหประชาชาติ

ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็มาถึงสถานี Genève-Sécheron

เดินออกจากสถานีข้ามสะพานลอยไปทางทิศเหนือ

เลี้ยวซ้ายไปตามถนน Av. de France ทางขวามือคือประตูทางเข้า UN

เดินต่อไปอีกประมาณ 400 เมตร

รั้วตรงนี้น่าจะมีคนมาแหกกรงจนเบี้ยวเลย

ถ้านั่งรถบัสจากในเมืองก็มาลงที่ป้าย Nations

จตุรัสด้านหน้าคือจุดหมายของพวกเราค่ะ


Place des Nations and The giant "Broken Chair"
The Broken Chair stands on three legs symbolises the campaign against landmines.

บริเวณจตุรัสด้านหน้าประตูอาคารที่ทำการสหประชาชาติ มีประติมากรรมรูปเก้าอี้ขาหัก มีสามขา
เป็นผลงานของศิลปินชาวสวิสชื่อ Daniel Berset สร้างขึ้นในปี 1997
ประติมากรรมนี้ทำจากไม้ มีน้ำหนัก 5.5 ตัน สูง 12 เมตร ดำเนินการโดยองค์กรผู้พิการนานาชาติ

It made out of 5.5 tons of wood at a height of 12 metres. It is the work of sculptor Daniel Berset. 
This impressive work of art has been dominating the Place des Nations since 1997. 

ประติมากรรมเก้าอี้ขาหักนี้สร้างขึ้นระหว่างการประชุมที่เจนีวาเพื่อลงนามในสนธิสัญญาออตตาวา
ว่าด้วยเรื่อง "ห้ามการใช้กับระเบิดและทุ่นระเบิดสังหารบุคคล"
เพื่อรณรงค์ให้คนเห็นถึงความร้ายแรงของระเบิดในสงครามซึ่งทำให้ผู้คนเสียชีวิตและพิการ

ฝั่งตรงข้ามคือประตูทางเข้าที่ทำการสหประชาชาติ

The United Nations Office at Geneva is housed at the historic Palais des Nations.
It built for the League of Nations in the 1930s. It is the European headquarters of the UN.

Nations Unies : United Nations : UN
The Palais is the largest centre for conference diplomacy in the world.

 องค์การสหประชาชาติ ก่อตั้งเพื่อสืบทอดองค์การสันนิบาตชาติในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
 เป็นองค์การระหว่างรัฐบาลที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ 

 "Alley of the Flags"
This iconic adorns the entrance to the Palais des Nations.

ประตูทางเข้าอาคารสหประชาชาติด้านหน้าปิด ด้านในคือธงชาติของรัฐสมาชิกสหประชาชาติ

Two straight lines of flag poles displaying flags of member states extending to the Palais des.

There are 195 flags in the Alley: 193 full Member States + 2 Observer States since 2015.
(Thailand Date of Admission : 15-12-1946)

ธงชาติของรัฐสมาชิก 193 ประเทศและรัฐสังเกตการณ์ถาวร 2 รัฐ ได้แก่ วาติกันและรัฐปาเลสไตน์

จตุรัส Place des Nations เป็นลานกว้าง บนพื้นมีน้ำพุเล็กๆ 84 อัน เพิ่มความสดชื่นให้ผู้คน
พื้นของจตุรัสทำมาจากคอนกรีตและหินแกรนิตที่นำมาจากประเทศของสมาชิก UN

The ground of the Place des Nations is made up of alternating concrete and different granites, 
coming from producing countries that are members of the UN, symbolizing the diversity of nations .

Place des Nations is often the  gathering place for demonstrators , who want to challenge public opinion and international organizations present in the area. 

ภาพวาดบนกำแพงด้านหน้าประตูเป็นธีมสีฟ้า


การเข้าไปชมด้านในต้องจองทัวร์ผ่านเวปไซต์ของ UN แม่ตุ๊กเข้าไปดูทัวร์เต็มทั้งเดือนแล้วค่ะ



เดินย้อนกลับทางเดิม

ขึ้นรถไฟเข้าไปในเมือง

เดินออกจากสถานีรถไฟ Gare de Genève ไปตามถนน Rue des Alpes


Fontaine Place Dorcière at Place des Alpes
This fountain was also called "fountain of the four seasons". Erected in 1859 with the bronzes eagle. 

ทางขวามือเป็นลานจอด FlixBus มีน้ำพุเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1859 ด้านบนเป็นรูปนกอินทรี

Jardin des Alpes (Garden of the Alps) and Brunswick Monument
The Jardin des Alpes was created on the former natural port of Pâquis, filled in 1862. 
In 1877, the mausoleum was erected there of Charles II of Este-Guelph, Duke of Brunswick.

ทาซ้ายมือเป็นสวนหย่อมมีสุสานของ Duke of Brunswick ตั้งอยู่ตรงกลาง

ฝั่งตรงข้ามสวนคือทะเลสาบเจนีวา ข้ามถนนไปเดินเล่นค่ะ

 The Brunswick monument (neo-gothic style) stands on a platform 65 meters long and 25 meters wide. It is guarded by marble chimeras and lion.

Quai du Mont-Blanc

ทางเดินริมทะเลสาบอยู่ด้านข้างท่าเรือเจนีวามองเห็นน้ำพุขนาดใหญ่

Jet d'Eau Fountain

น้ำพุเจ็ทโด้ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเจนีวา

เวลา 13:00 น. ทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคารจีนริมทะเลสาบ Mont Blanc 7 Restaurant chinois

ร้านสวยสะอาด พวกเราสั่งอาหารสองอย่างราคาค่อนข้างแพงแต่รสชาติดีมาก

ซี่โครงหมูอบซอสนุ่มมาก

ข้าวผัดกุ้ง

ทานอาหารเสร็จก็ออกไปเดินเล่นกันต่อค่ะ

ท่าเรือ Genève Mont-Blanc

ด้านล่างเป็นศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวและขายตั๋วสำหรับล่องเรือชมทะเลสาบ (Boat Cruises)

นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนต้องมาเก็บภาพน้ำพุนี้

Pont du Mont Blanc (Mont Blanc Bridge)

เดินข้ามสะพานมองบลังค์ซึ่งเป็นสะพานหลักไปย่านเมืองเก่าที่อยู่ทางทิศใต้ของทะเลสาบ

The bridge is about 250 metre-long. It is a major bridge in Geneva and inaugurated in 1862. 
It is named after Mont Blanc, the highest massif in the Alps, well visible from Geneva.

สะพานนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1862 มีความยาว 250 เมตร ตั้งชื่อตามเทือกเขามองบลังค์ที่มองเห็นจากตัวเมือง

ฝั่งตะวันออกของสะพานคือทะเลสาบเจนีวา

ตอนนี้มีการจัดงานที่สวนสาธารณะริมทะเลสาบ

Big Ferris Wheel in English Garden

มีหงส์ขาวหลายตัวลอยหาอาหารอยู่ในทะเลสาบ


น้ำในทะเลสาบใสสะอาดมาก

Genève Jardin Anglais

ท่าเรือด้านหน้าสวนอังกฤษ


Jardin anglais (English Garden)

The National Monument 
 This monument symbolizes the entry of Geneva into the Swiss Confederation on September 12, 1814.
 It was inaugurated in 1869.

The bronze statue represents two young women, carrying sword and shield with their gaze inexorably turned towards the lake and in the direction of Switzerland.

รูปปั้นอนุสรณ์การเข้าร่วมสมาพันธรัฐสวิสเมื่อวันที่ 12 กันยายน 1814
สร้างขึ้นในปี 1869 เป็นรูปผู้หญิงสองคนถือดาบและโล่ สายตามองไปยังทะเลสาบ



 This is the first Geneva park designed on the model of English gardens .

The English Garden is a public garden located on the shores of Lake Geneva in 1854.
It is facing the Jet d'Eau.

Jet d'Eau (water jet) is the huge Fountain on the Geneva Lake. They built the fountain in 1886 to control and release the excess pressure of a hydraulic plant at La Coulouvrenière. 
It became remarkable symbol of the city and so it was amplified and relocated to the center of the Lake.

เจ็ทโด้เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่าน้ำพุ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1886 เพื่อใช้ระบายน้ำและแรงดันส่วนเกินของระบบน้ำในเมือง ต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเจนีวา จึงได้ย้ายตำแหน่งมาตั้งที่กลางทะเลสาบ

Jet d'Eau is one of the tallest fountain in the world.
 Its strong engines pump 500 liters of water per second to the height of 140 meters.

เจ็ทโด้เป็นหนึ่งในน้ำพุที่สูงที่สุดในโลก มีแรงดันน้ำทำให้น้ำพุพุ่งได้สูงสุดถึง 140 เมตร

 Petit Train : The Little Electro-Solar Train which runs along the left bank of Geneva harbor. 
รถไฟเล็กสีแดงนำเที่ยวเส้นทางฝั่งซ้ายของทะเลสาบ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ราคาคนละ 9 CHF

เดินมาถึงส่วนไฮไลท์ของสวนอังกฤษที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปค่ะ 
"นาฬิกาดอกไม้"

The English Garden with its famous Flower Clock (L'horloge fleurie)

นาฬิกาดอกไม้ สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1955 ประดับด้วยดอกไม้กว่า 12,000 ต้น มีการปลูกใหม่ทุกฤดู

The clock situated at a corner of the Jardin Anglais. It was created for the first time in 1955 and contains about 12,000 flowers and plants. The floral arrangements change according to the season. 

 Its second hand is the longest in the world, at 2.5 metres with a diameter of 5 metres.

เข็มนาฬิกานี้เดินได้จริงตามเวลาปกติ เส้นผ่าศูนย์กลางมีขนาด 5 เมตร
ที่สำคัญคือเข็มวินาทีมีความยาว 2.5 เมตร ซึ่งยาวที่สุดในโลก


The flower clock is not only pretty, it also tells the time with Swiss precision.
The time you see is transmitted by satellite. 

เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม มีร้านขายนาฬิกาหรูๆหลายร้านเลยค่ะ



เดินไปทางทิศใต้ตามถนน Pl. du Port  Rue du Rhône สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านช็อปปิ้ง

บล็อกถัดมาคือถนน Pl. de Longemalle มีน้ำพุตั้งอยู่ตรงกลางจตุรัส

Fontaine de Longemalle (Fountain of Place de Longemalle)

Banque de Commerce et de Placements

บริเวณนี้คือถนนช็อปปิ้งของเมืองเจนีวา เป็นถนนหลายสายขนานและมาตัดกัน


Rue du Purgatorier

เปิดกูเกิ้ลแมพให้นำทางไปมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์

 Rue du Cloître

Terasses Cathedrale (Terrace behind Saint-Pierre cathedral)
ทางเดินเข้าสู่มหาวิหาร

ที่ผนังด้านในมีภาพวาดเก่าแก่สวยงามหลายภาพ

ตอนนี้กำลังมีการซ่อมแซม ตรงระเบียงมีผ้าใบปิดกั้นไว้ ต้องรีบเดินออกเพราะเสียงก่อสร้างดังมาก

มหาวิหารตั้งอยู่บนเนินสูงของเมืองเจนีวา เดินขึ้นไปเหนื่อยพอสมควร

Rue de l'Evêché

มาถึงแล้วค่ะ บริเวณนี้คือด้านหลังมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งเจนีวา

St. Peter's Cathedral (english) or  Cathédrale Saint-Pierre de Genève (french)

The cathedral was build in 1160-1252. It combines Romanesque, Gothic and neoclassical styles.
It located on the hill in the center of Geneva's Old Town. And has been the main Protestant church of Geneva since 1535. 

North and South Towers are available for visitors views over Geneva. 

มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (อาสนวิหารแซ็ง-ปีแยร์แห่งเจนีวา) สร้างครั้งแรกตั้งปี ค.ศ.1160 มีการซ่อมแซมและปรับปรุงหลายครั้งจนมีลักษณะผสมผสานหลายสไตล์ทั้งโรมาแนสก์ โกธิคและนีโอคลาสสิก
ตอนแรกเป็นโบสถ์คาทอลิกต่อมาในปี 1535 ได้เปลี่ยนเป็นมหาวิหารโปรเตสแตนต์ประจำนครเจนีวา 

หอคอยทางทิศใต้เป็นจุดชมวิวเมือง มีบันได 157 ขั้นสามารถเดินขึ้นไปได้ค่าเข้าชมคนละ 7 CHF
ถ่ายรูปเสร็จก็เดินกลับค่ะ

เดินลงเนินไปด้านล่าง

แผนที่ตัวเมืองเจนีวา


เดินลงเนินขึ้นเหนือมาประมาณ 200 เมตร จะพบกับจตุรัส Place du Molard ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งกลางเมือง
เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารและคาเฟ่ ตรงกลางมีน้ำพุ เป็นจตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง

Place du Molard is a square in the center of Geneva. It is between Rue du Marche and the Lake. 
Molard Square is one of the city's oldest commercial areas since the 16th century.

The Molard fountain

The Shopping Street : Rue du Marché  and Rue de la Croix-d'Or

ถนนช็อปปิ้งยาวขนานไปกับทะเลสาบ เป็นแหล่งที่มีคนมาเดินเล่นมากที่สุดในเจนีวา

 Molard Tower (Clock Tower) at the center of the square.

 It was built in 1591, which is a remnant of the defensive wall that used to protect the port of Molard
 in the Middle Ages.

ตรงกลางจตุรัสมีหอคอยเก่าแก่ เคยเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองเพื่อป้องกันการรุกรานในยุคกลาง

เดินออกมาที่ถนนริมทะเลสาบ ด้านหน้าคือสะพาน Pont des Bergues ข้ามแม่น้ำโรห์น

ทางขวามือของสะพานมีสวนสาธารณะเป็นเกาะเล็กๆอยู่กลางแม่น้ำ
Île Rousseau (Rousseau Island)

ภาพมุมสูง รูปจากเวป Geneva tourism https://www.geneve.com

The Mont Blanc bridge stands at the end of Geneva Lake, from where river Rhone starts. 
ทางขวามือคือสะพานมองบลังค์ อยู่ระหว่างทะเลสาบเจนีวาและแม่น้ำโรห์น

จตุรัส Place du Rhône ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโรห์น


ตรงทางลาดลงแม่น้ำมีหงส์มานอนเล่นหลายตัวเลยค่ะ

Pont des Bergues is a pedestrian and bicycle bridge over the Rhône.

สะพาน Bergues Bridge เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโรห์นสำหรับคนเดินและจักรยาน

ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงแรมหรู 4-5 ดาว

ถัดไปทางซ้ายมือคือสะพาน Pont de la Machine มีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ตรงกลางสะพาน

Pont de la Machine (Machine Bridge) and Quartier Libre SIG

เดินข้ามสะพาน Pont des Bergues ไปฝั่งตรงข้าม

ทางขวามือมีทางเดินไปยังเกาะกลางแม่น้ำ

เดินกลับสถานีรถไฟไปตามถนน Rue du Mont-Blanc

ด้านหลังคือหอคอยของโบสถ์ Holy Trinity Church

Swiss Post

อาคารที่ทำการไปรษณีย์กรุงเจนีวา

เดินต่อไปยังถนน Rue des Alpes

แวะซื้อขนมและของที่ระลึก

ด้านหน้าคือสถานีรถไฟหลักของเจนีวา "Gare de Genève Cornavin" เข้าไปขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางต่อค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น