TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2565/12/30

เที่ยวหลังสวน-สะพานชมกวาง จ.ชุมพร

 วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2565

เวลา 8:00 น.ออกเดินทาง ช่วงวันหยุดปีใหม่นี้คุณป๋าขับรถขึ้นไปส่ง มป เพราะเปิดเทอมสองหลังปีใหม่  แพลนขับรถเที่ยวแวะพักระหว่างทาง 4 วัน 3 คืน จุดหมายแรกคือแวะพักที่หลังสวน

เวลา 13:00 น.เดินทางมาถึง อ.หลังสวน จ.ชุมพร เลี้ยวขวาเข้าไปในตัวเมือง

ในตลาดมีบ้านไม้สองชั้นเรียงกันหลายหลังได้บรรยากาศของเมืองเก่า

ขับรถจากถนนสายเอเชียเข้ามาประมาณ 15 กม.จนถึงถนนเลียบชายทะเลแล้วเลี้ยวซ้าย

ถนนหมายเลข 4012 เป็นถนนเลียบชายทะเลมีวิวสวยงาม


แวะถ่ายรูปข้างทาง ตอนบ่ายแดดจัดและร้อนมาก

น้ำทะเลสวยสะอาด

บริเวณนี้เป็นจุดพักรถและชมวิว

รูปปั้นหลวงปู่ทวดและพระสีวลีเถระ


ชายหาดบริเวณนี้แคบและมีหินมาก ไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ


มีบันไดเล็กๆเดินลงไปที่ชายหาดได้


ขับรถต่อไปตามถนนนี้อีกประมาณ 10 กม. เราจะไปที่เกาะพิทักษ์ค่ะ


ถึงทางแยกเลี้ยวขวาไปท่าเรือเกาะพิทักษ์

ขับรถเข้ามาอีก 1 กม.ก็มาถึงท่าเรือแล้วค่ะ

รูปปั้นปลาหมึกยักษ์

มาถึงก็ต้องมาถ่ายรูปคู่กับปลาหมึกเพราะเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลยค่ะ 

ตัวสูงประมาณ 3 เมตร

ห้ามนั่งบนตัวปลาหมึก


บ้านท้องครก ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ด้านหลังคือเกาะพิทักษ์

เกาะพิทักษ์ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวท้องครก ห่างจากชายฝั่ง 1 กิโลเมตร  

ในอดีตชาวบ้านเรียกว่า เกาะผีทัก เนื่องจากสมัยก่อนชาวประมงออกเรือหาปลามาถึงบริเวณเกาะนี้พอมองขึ้นไปบนฝั่งบนเกาะก็พบเงาคนกำลังกวักมือเรียก แต่พอเข้าไปใกล้ๆเกาะกลับไม่พบใคร 
ทำให้ชาวประมงพากันเรียกว่าเกาะผีทัก ต่อมาเริ่มมีชาวบ้านขึ้นไปอาศัยอยู่บนเกาะ 
จึงเปลี่ยนชื่อเป็น เกาะพิทักษ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

บริเวณริมฝั่งไปจนถึงเกาะเป็นพื้นที่ปลูกหญ้าทะเลเพื่อเป็นบ้านปลาและที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ



ประวัติเกาะพิทักษ์


ปลาหมึกคู่


ท่าเรือเกาะพิทักษ์


เกาะอยู่ไม่ไกลจากฝั่ง ในช่วงน้ำลงน้ำทะเลจะแห้งเป็นสันทรายสามารถเดินข้ามไปยังเกาะได้

บนเกาะมีที่พักแบบโฮมสเตย์เป็นแพ็คเกจแบบรวมค่าเรือ อาหารและที่พัก

พวกเราไม่ได้ไปพักบนเกาะค่ะ 

เดินเล่นและถ่ายรูปบริเวณท่าเรือ


กำลังมีการก่อสร้างศาลาริมทะเล

ถ่ายรูปเสร็จก็เดินทางกลับค่ะ

ขับรถย้อนกลับทางเดิม

แวะถ่ายรูปสุสานหอยล้านปี  ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน

บริเวณนี้เป็นลานหินกว้างยื่นลงไปในทะเล เนื้อหินคือซากหอยอัดแน่นจนกลายเป็นหาดหินริมทะเล 

เมื่อก่อนที่นี่เป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่จำนวนมากโดยเฉพาะหอยขม 
ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก และน้ำทะเลไหลมาท่วมหนองน้ำ ทำให้หินปูนในทะเลหุ้มเปลือกหอยจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งหนาประมาณ 40 เซนติเมตร 
ต่อมาแผ่นดินถูกยกตัวขึ้นจีงปรากฏเป็นลานหินกว้างใหญ่ริมทะเล 

จากการคำนวณอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลเหล่านี้มีอายุประมาณ 40 ล้านปี

สุสานหินนี้มีความยาวของหาดประมาณ 1 กิโลเมตร 

เวลา 14:30 น.เดินทางมาถึงที่พัก บ้านเลรีสอร์ท

ที่พักอยู่ในสวนมะพร้าวติดทะเล มีสระว่ายน้ำด้วยค่ะ

ระหว่างรอเตรียมห้องพัก ไปเดินเล่นริมทะเลก่อนค่ะ

ชายหาดสะอาดมาก

มีเงาร่มไม้เลยไม่ร้อน ลมพัดเย็นสบาย

ชายหาดสงบและเป็นส่วนตัว

ห้องพักของพวกเราอยู่ชั้นสองห้องด้านหน้ามีระเบียงชมทะเล

ห้องนอนแบบสามคน มีแอร์ ห้องน้ำไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 1500 บาท

เวลา 16:00 น.หลังจากนอนพักผ่อนแล้วก็ขับรถไปเที่ยวกันค่ะ


ถนนหมายเลข 4012 เป็นถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ที่สวยงามอีกเส้นหนึ่ง

ภูมิทัศน์ริมทะเลบางช่วงยังไม่ค่อยดี ดูรกร้าง

ไปทานอาหารเย็นที่ปากน้ำหลังสวน

ร้านแนะนำของที่นี่ค่ะ

สั่งอาหารแค่สามอย่างแต่ดูเต็มโต๊ะมากเลย ราคาทั้งหมด 700 บ.

ออส่วนกรอบ กุ้งผัดพริกเกลือ ส้มตำไทย ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา (มียำมะม่วงแถมมาด้วยค่ะ)

ทานอาหารเสร็จ ก็ออกไปเดินเล่นที่ลานโลมา


ด้านหลังคือแม่น้ำหลังสวนและแพปลา


แม่น้ำไหลลงทะเลที่ปากน้ำหลังสวน

ชายทะเลปากน้ำหลังสวน

น้องจ้ำม่ำมากๆเลย

เรือหลวงจักรีนฤเบศรจำลอง (HTMS Chakri Naruebet)

รอบๆเรือจำลองกำลังมีการก่อสร้างอาคารและปรับปรุงสถานที่


ลานรอบๆเรือจำลองมีรูปปั้นปลาหลายอัน


เรือหลวงจักรีนฤเบศรจำลอง ตั้งอยู่ที่ชายหาดแหลมสน ต.ปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร 

เรือหลวงจักรีนฤเบศรลำจริงอยู่ที่ฐานทัพเรือสัตหีบจังหวัดชลบุรี 

ก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 จากความศรัทธาของประชาชนและคนในชุมชนปากน้ำหลังสวน เสียสละทรัพย์และแรงงาน ใช้งบก่อสร้างประมาณในการก่อสร้างประมาณ 12 ล้านบาท 

จุดประสงค์ในการสร้าง คือ จำลองสถานที่เดินเรือ
และเป็นที่ประทับรูปปั้นจำลองของเสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

เรือจำลองตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ข้างๆมีที่สำหรับจุดประทัดแก้บน 

เรือจำลองมีขนาดกว้าง 39 เมตร ยาว 79 เมตร สูง 18 เมตร มีขนาด 1 ใน 3 ของเรือจักรีนฤเบศรลำจริง 

ขึ้นไปชมด้านบนเรือได้ฟรี เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.

 เรือจำลองเป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นล่างคือห้องประชุม มีส่วนจัดแสดงประวัติการก่อสร้าง
และประวัติของกรมหลวงชุมพรฯ 

ชั้น 2 เป็นตำหนักที่ประทับรูปปั้นจำลองของเสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์  
ชั้น 3 บนสุดเป็นที่ชมวิวชายทะเล 

ชายหาดกว้างแต่หาดทรายไม่ขาวเหมือนเอาทรายจากที่อื่นมาถม

ลมแรงเหมาะกับการเล่นว่าวมาก



สวนหย่อมริมทะเล มีการประดับไฟเพื่อจัดงานปีใหม่

ด้านหลังมีร้านและรถเข็นขายอาหารให้ซื้อมานั่งทานริมทะเล

เวลา 18:00 น.เดินทางกลับที่พัก

กลับมาเดินเล่นที่ชายหาดของที่พัก

เจ้าขาววิ่งมาเล่นด้วยสักพักก็เดินตามเจ้าของกลับบ้าน


ชายหาดสวย สะอาดและสงบเงียบเหมาะกับการพักผ่อนมาก


เวลา 18:30 น.ฝนตกหนักมาก เลยกลับห้องนอนเล่น วิวจากห้องนอนมองเห็นทะเล ท้องฟ้ามืด

ที่พักมีไวไฟฟรีค่ะ นอนเล่นสักพักก็อาบน้ำเข้านอน

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2565
เวลา 6:30 น.ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น

ระเบียงหน้าห้องนอน

พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว

มป ยังไม่ตื่น แม่ตุ๊กเลยลงไปเดินเล่นที่ชายหาด

เจ้าขาวรีบวิ่งมาหา เป็นเพื่อนเดินเล่นกัน

เช้านี้เมฆเยอะมากเลยไม่ค่อยมีแสงอาทิตย์


รูปจากระเบียงชั้นสองของห้องอาหาร


เวลา 7:30 น.อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จก็ลงมาทานอาหารเช้ากันค่ะ

อาหารเช้า มีข้าวต้มปลา ข้าวเหนียวสังขยา ปาท่องโก๋ กาแฟ โอวัลติน

ทานอาหารเสร็จเล่นกับน้องเหมียวแล้วก็ออกเดินทางต่อค่ะ

รูปสุดท้ายก่อนกลับ

เวลา 8:30 น.ขับรถไปชุมพร เลี้ยวขวาที่สามแยกเพื่อไปถนนหมายเลข 41

เวลา 9:30 น.เดินทางมาถึง อ.เมือง จ.ชุมพร ผ่านแยกปฐมพรขับต่อไปตามถนนหมายเลข 1001 อีก 10 กม.
แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน 1007 อีก 2 กม.ถึง ต.บางลึก เลี้ยวขวาไปที่โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่

ขับไปตามทางอีก 2 กม.จนถึงคลองหนองใหญ่ ข้ามสะพาน


มาถึงจุดหมายแล้วค่ะ

สะพานชมกวาง หนองใหญ่


แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ของ จ.ชุมพร เปิดเมื่อเดือนตุลาคม 2562

พวกเรามาถึงตอนเช้าคนยังไม่เยอะมาก

อ่างเก็บนํ้าหนองใหญ่ ต.บางลึก อ.เมือง จังหวัดชุมพร (แก้มลิงหนองใหญ่)

ซื้อกล้วยไปฝากกวางคนละถุง ราคาถุงละ 20 บาท (3 ถุง 50 บ.)

เดินข้ามสะพานแขวนไปที่เกาะกลางน้ำ สะพานแข็งแรงดูปลอดภัยดีค่ะ

ฝูงเป็ดหากินอยู่ริมน้ำ


บนสะพานก็มีกล้วยขายด้วยค่ะ กล้วยเล็บมือนางและกล้วยหอม

 สะพานทอดยาวไปยังอีกฝั่งซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่กวางอาศัยอยู่

โครงการแก้มลิงนี้เกิดจากเมืองชุมพรประสบกับปัญหาน้ำท่วมบ่อย เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศ
ของตัวเมืองอยู่ในที่ลุ่มต่ำ การระบายน้ำทำได้ยาก 


ในหลวง ร.9 ทรงให้ขุดคลองทำระบบระบายน้ำแก้มลิงเพื่อสะสมและรองรับน้ำในปริมาณมาก
 ตั้งชื่อว่า โครงการหนองใหญ่ และ ขุดคลองขนาดใหญ่เชื่อมต่อการระบายน้ำลงสู่ทะเล 

สะพานนี้มีความยาวประมาณ 150 เมตร

ตรงกลางสะพานมีศาลาชมกวาง


เดินไปจนสุดสะพาน


ในปี พ.ศ.2553 ได้มีการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ให้เป็นที่เลี้ยงกวาง 

โดยรับกวางจากศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์หนองกวาง จ.ราชบุรี เป็นกวางพันธุ์รูซ่าอายุ 3 ปี จำนวน 10 ตัว เป็นตัวผู้ 6 ตัวและตัวเมีย 4 ตัว นำมาปล่อยขยายพันธุ์ จนปัจจุบันมีกวางมากกว่า 60 ตัว

ในปี พ.ศ.2561 ได้ดำเนินการสร้างสะพานไม้ขนาดใหญ่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เรียกว่า สะพานชมกวาง

Rusa Dear

ลักษณะทางชีววิทยาของกวาง

น้องกวางนอนหลบแดดอยู่ใต้ร่มไม้

กวางรูซ่าตัวผู้ทุกตัวมีเขา


ด้านหน้าคือสะพานไม้เคี่ยมยาวประมาณ 1 กิโลเมตร




ถ่ายรูปเสร็จแล้ว ไปให้อาหารกวางกันค่ะ


กวางอาศัยอยู่อีกฝั่ง เวลาให้กล้วยต้องโยนขึ้นไปบนฝั่ง


ถ้ากล้วยตกน้ำน้องกวางก็ต้องลงมางมกิน


กวางตัวผู้เขาใหญ่มาก

บางตัวเหมือนลูกกวาง

แม่กับลูกหาอาหารด้วยกัน

กวางตัวนี้เดินลุยน้ำมากินกล้วยที่สะพาน กินเสร็จก็เดินกลับ


เราไม่สามารถโยนกล้วยให้กวางรับได้เพราะสายตากวางไม่ดี ถ้าโยนไม่ถึงฝั่งกล้วยจะจมน้ำ

เทคนิคคือควรใช้กล้วยหอมเพราะมันลอยน้ำได้ไม่เหมือนกล้วยเล็บมือนาง


กวางที่นี่ดูสมบูรณ์อ้วนท้วนดี

กิจกรรมให้อาหารกวางบนสะพานชมกวางแบบนี้ก็สนุกดีค่ะ

ช่วงเย็นจะมีคนมาเที่ยวมากเพราะแดดไม่ร้อน

พอแดดร้อนมาก กวางก็ไม่ค่อยออกมาทานอาหาร

ให้อาหารกวางเสร็จก็กลับกันค่ะ


เวลา 10:00 น.ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้วก็ออกเดินทางต่อ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น