TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2562/05/02

2.City tour in Amsterdam เดินเล่นในอัมสเตอร์ดัม

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2562

 Rijksmuseum 




ระหว่างยืนรอรถรางก็เก็บภาพไปรอบๆ




อาคารบ้านเรือนสวยเหมือนบ้านริมคลองทุกหลัง


รถรางมาแล้วไปเที่ยวกันต่อค่ะ


ลงที่ป้าย Rembrandtplein มีร้านขายผลงานศิลปะวางเรียงรายอยู่รอบๆจตุรัส


จตุรัสเรมแบรนดท์ เป็นย่านสำคัญของเมือง มีโรงแรม ร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย


ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Booking.com


ใจกลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์ของเรมแบรนดท์


เมื่อก่อนจตุรัสนี้มีชื่อว่า Botermarkt ตามชื่อตลาดค้าเนยแข็ง


ในปี ค.ศ.1876 มีการนำอนุสาวรีย์ เรมแบรนดท์ มาตั้งไว้กลางจตุรัส 
จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นเรมแบรนดท์เพลน Rembrandtplein


ด้านหน้าคือประติมากรรมเหล็กรูปทหารยาม 16 คนที่อยู่ในภาพ "The Night Watch"


Rembrandt  Harmenszoon van Rijn (1606-1669) One of the greatest Dutch artist.


Captain Frans Banning Cocq

มีคนมาจับมือกัปตันเยอะมากจนมือแววเลยค่ะ


เด็กผู้หญิงคนเดียวท่ามกลางหมู่ทหาร


 ดูใกล้ๆจะเห็นว่าเธอห้อยไก่ไว้ที่เอวด้วยค่ะ

มีสุนัขตัวเล็กๆยืนเห่าเสียงกลอง


"The Night Watch" ถูกน้ามาทำเป็นประติมากรรมในงานเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 600 ปี
ของเรมแบรนดท์ในปี ค.ศ.2006

รอบๆจตุรัสเต็มไปด้วยโรงแรม ผับบาร์ คาเฟ่ เป็นแหล่งดื่มกินยามค่ำคืน


เดินออกจากจตุรัสไปทางทิศตะวันตกตามถนน Reguliersdwarsstraat ประมาณ 500 เมตร








Pathé Tuschinski Theater

กำลังเข้าฉายค่ะ มะปรางดูที่เมืองไทยแล้ว

Trial Attic, cheese tasting by Henri Willig

แค่เดินผ่านก็ได้กลิ่นชีสเลยค่ะ

สุดถนนจะพบกับทางแยกขนาดใหญ่เป็นลานกว้าง

Muntplain มีหอระฆังตั้งอยู่กลางจตุรัส


Munttoren (Mint Tower) หอคอยหรือหอระฆังมุนท์โทเรน


เดิมเป็นประตูเมืองตามแนวกำแพงเมืองอัมสเตอร์ดัม สมัยที่ฝรั่งเศสปกครองได้ดัดแปลงเป็นโรงกษาปณ์
หอระฆังด้านบนต่อเติมขึ้นในปี ค.ศ.1699 จะตีบอกเวลาและบรรเลงเพลงทุก 15 นาที 
เสียงดังกังวานไปทั้งจตุรัสเลยค่ะ

เดินข้ามคลอง Singel



Singel เป็นคลองที่อยู่ชั้นในสุดของเมืองอัมสเตอร์ดัมไปไหลลงทะเลที่ด้านหลัง Centraal Station


สองข้างคลองเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่สวยงาม


The Singel is lined by many beautiful, richly decorated canal houses 
built during the Dutch Golden Age.


The Bloemenmarkt
ตลาดดอกไม้บลูเมนมาร์ค เป็นตลาดค้าปลีกดอกไม้ใหญ่ที่สุดของอัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ริมคลองซิงเกล
ตั้งอยู่บนถนนคนเดินชื่อ Singel (เหมือนชื่อคลอง) ระยะทางยาวประมาณ 250 เมตร
มีร้านค้าริมคลอง 15 ร้าน ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหาร ขายชีสและขายของที่ระลึก


The Bloemenmarkt was the world's only floating flower market. Founded in 1862, it is sited in Amsterdam, Netherlands, on Singel between Muntplein and Koningsplein in the city's southern canal belt. It has 15 souvenir and gift shops, with only a few still selling fresh flowers. Today, the market is one of the main suppliers of dried tulip bulbs and tulip paraphernalia to tourists visiting Amsterdam.


แหล่งรวมของฝากของเนเธอร์แลนด์ ขายของเหมือนๆกันทุกร้าน

เมล็ดพันธุ์ทิวลิปหลากสี

หน่อพันธุ์ว่านสี่ทิศ

Cactus


Soft Clogs

Old Amstercam Cheese

Amaryllis



เมล็ดพันธุ์ทิวลิปบรรจุในถุงสวยงาม


เห็นแล้วอยากซื้อกลับมาปลูก(ในตู้เย็น)ที่เมืองไทยเลยค่ะ


Cannabis (เมล็ดพันธุ์กัญชามาเป็นกระป๋องเลยค่ะ)

ผนังสวยๆริมทางเดิน


 เสียดายโดนพ่นสีจนเลอะไปหมด


Tulip for all year

ดอกไม้สวยเหมือนของจริงเลยค่ะ

ร้านนี้ใหญ่มากอยู่ใกล้ทางออกเข้าไปชมด้านในหน่อยค่ะ

ตกแต่งสวยทั้งร้านเลย

ร้านสวยจนมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเอาไปลงในอินสตาแกมเยอะมาก





ค่าถ่ายรูปกับรองเท้าไม้คนละ 0.5 ยูโร



ทิวลิปยักษ์ (ใหญ่กว่าหน้าคุณป๋าอีก)



มุมสวยๆในร้าน


ดอกไม้สด



ทิวลิปเพิ่งตัดมาวางขายกันเป็นมัดๆเลยค่ะ


ทิวลิปราคาถูกมาก ดอกละไม่ถึง 10 บาท


เดินจนสุดถนนตลาดดอกไม้ ข้ามคลองมาฝั่งตรงข้าม


Bloemenmarkt flower stalls floating in the Singel canal.


ร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่ในคลองโดยมีหน้าร้านอยู่ริมถนนคนเดิน ตัวร้านยื่นออกมาในคลอง


เรือนำเที่ยวในคลองซิงเกล


บลูเมนมาร์คเป็นตลาดดอกไม้ลอยน้ำเพียงแห่งเดียวในโลก


พวกเราชอบตลาดนี้มากๆค่ะได้ของที่ระลึกกลับมาเต็มเป้เลย ของราคาไม่แพง


หอระฆัง Munttoren


ร้านขายกระเบื้องเคลือบ


เดินผ่านซุ้มโค้งเข้าสู่ถนนสายหลัก


Kalverstraat 
ถนนช็อปปิ้งคาลเวอร์สตราทท์ เริ่มจาก Munplein ไปถึง Dam Square ระยะทางประมาณ 750 เมตร


Andries De Jong ship shop


Stroopwafel
วาฟเฟิลกรอบสอดใส้คาราเมลโรยด้วยท็อปปิ้งหลายชนิด ขนมชื่อดังของเนเธอร์แลนด์


ระหว่างที่เดินเล่นจะเห็นว่ามี Walking Tour หลายกลุ่ม แบ่งตามไกด์ที่พูดแต่ละภาษา

สองข้างทางเต็มไปด้วยช็อปมากมาย




Spui
The Spui is a square in the centre of Amsterdam.
สเปาเป็นจตุรัสกลางเมืองอีกแห่งหนึ่งมีร้านกาแฟ ร้านหนังสืออยู่มากมาย

The Begijnhof
จากจตุรัสสเปาจะมีทางเข้าลานเบอเคนฮอฟเป็นประตูไม้เล็กๆอยู่ตรงอาคารอิฐสีแดง

ทางเข้าเล็กมากค่ะ ถ้าไม่สังเกตุอาจจะเดินผ่านแต่พวกเราเห็นป้ายรูปโบสถ์พอดีเลยไม่หลงทาง

เดินผ่านประตูเข้ามาจะพบกับบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ



The Begijnhof is one of the oldest hofjes in Amsterdam. A group of historic buildings, 
mostly private dwellings, centre on it. As the name suggests, it was originally a Béguinage. 
Today it is the site of two churches, the Catholic Houten Huys and the English Reformed Church.

Het Houten Huys, 34 Begijnhof
The ancient, restored wooden house  is famous as one of the two wooden houses still existing in the center of Amsterdam (the other one being Zeedijk 1). This house dates from about 1528,
 and is the oldest wooden house in Amsterdam.


บ้านไม้สีดำเลขที่ 34 สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เป็นบ้านไม้ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของประเทศ

Tall Amsterdam houses
The buildings in the court are tall, characteristically Amsterdam-style town-houses, private character.  There are 47 regular town houses, each with its individual aspect, and most of them with facades from the 17th and 18th century.


อาคารบ้านเรือนในนี้มีลักษณะเหมือนบ้านริมคลอง คือสร้างด้วยอิฐหลังคาหน้าจั่วที่มีรูปแบบแตกต่างกัน สถาปัตยกรรมแบบดัทช์เก่าแก่จากศตวรรษที่ 17


เมื่อก่อนบ้านเรือนในนี้เป็นที่พักของหญิงผู้นับถือคริสต์นิกายคาทอลิกอุทิศตนใช้ชีวิตเหมือนแม่ชี
 เรียกว่า Beguine แต่ปัจจุบันผู้พักส่วนมากก็เป็นหญิงโสดที่ประพฤติตัวดีเหมือนแม่ชี


Sister Antonia, was the last Beguine of the Begijnhof. On 23 May 1971, Sister Antonia’s death at the age of 84 ended over 800 years of Beguine tradition in Amsterdam, but the sanctity of the secret garden remains to this day.


หญิง Berguine คนสุดท้ายได้เสียชีวิตไปเมื่อปี 1971



The English Reformed Church is one of the oldest buildings in Amsterdam.


ตรงกลางลานมีโบสถ์เก่าแก่ชื่อ English Reformed Church

ตอนแรกเป็นโบสถ์คาทอลิกของเหล่าแม่ชีแต่ภายหลังมีการเปลี่ยนให้เป็นโบสถ์นิกาย Presbyterians

เหล่าแม่ชีเลยใช้บ้านเลขที่ 31 ที่อยู่ตรงข้ามมาสร้างเป็นโบสถ์เล็กๆเพื่อใช้ทำพิธี เรียกว่า The Chapel


The Begijnhof Chapel, dedicated to Saint John and Saint Ursula, is a Roman Catholic chapel run by the Congregation of the Blessed Sacrament, in the St Nicholas Parish of Amsterdam. It is located in a former schuilkerk in the Begijnhof across from its original location, the English Reformed Church, Amsterdam. The Miracle of Amsterdam is commemorated yearly with a procession starting from this church.

ทางเข้าโบสถ์ทั้งสองอยู่ตรงข้ามกัน


Willem Marinus van Rossum was a Dutch Cardinal of the Roman Catholic Church.


The courtyard has two bleaching greens, one on each side of the chapel.

ด้านในเป็นโซนที่พักอาศัย ห้ามบุคคลภายนอกเข้า มีสนามหญ้าสีเขียวสด รอบๆบริเวณก็สะอาดมากค่ะ


Begijnhof was the only Roman Catholic institution to be allowed to remain in existence.
 This was because the houses were the beguines' private property.


ในนี้มีบ้านทั้งหมด 47 หลัง สร้างเรียงเป็นวงล้อมรอบลานเบอเคนฮอฟ


โบสถ์หลังนี้มีหมายเลข 48


บ้านหมายเลข 1 อยู่ตรงประตูทางเข้าด้านข้างโบสถ์


ประตูทางเข้าฝั่งทิศตะวันออก


เดินต่อไปตามซอยเล็กๆ Begijnensteeg ที่ไปเชื่อมต่อกับถนน Kalverstraat


Official AJAX Fanshop






เดินมาสักนิดจะพบกับซอกตึกทางซ้ายมือ มีคนมุงกันเยอะๆได้ยินเสียงไกด์บรรยายเสียงดัง


ประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์อัมสเตอร์ดัม สังเกตุว่าประตูจะดูเอียงนิดๆ
Amsterdam Museum

ด้านบนประดับตราสัญลักษณ์เมืองอัมสเตอร์ดัม เป็นรูปมงกุฏสีฟ้าอยู่บนไม้กางเขนสีขาวไขว้ 3 อัน

Orphans' Relief
รูปปั้นนูนต่ำรูปเด็กๆใส่ชุดเครื่องแบบสีดำแดงฟ้า ของสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า
ผลงานของ Joost Bilhamer ปี 1581

ตอนแรกเป็นทางเข้าสำนักชี St.Lucien ต่อมาในปี 1578 ได้ปรับปรุงให้เป็นสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า และในปี 1975 ได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์อัมสเตอร์ดัม

พวกเราไม่ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ค่ะ เดินเล่นต่อไปเรื่อยๆ มีร้านค้าสองข้างทางเยอะมากๆ


เดินเล่นและแวะเข้าไปดูของในร้านเป็นระยะๆ

เดินมาจนสุดถนนถึง Dam Square


De Nieuwe Kerk (New Church) is a 15th-century church in Amsterdam located on Dam Square, next to the Royal Palace. Formerly a Dutch Reformed Church parish, it now belongs to the Protestant Church in the Netherlands.
โบสถ์ใหม่สร้างขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 15 ทำหน้าที่เป็นโบสถ์ประจำราชวงศ์ ไม่ได้ใช้ในพิธีทางศาสนา
วันปกติจะเปิดเป็นศูนย์แสดงนิทรรศการด้านศิลปะและวัฒนธรรม


ทานอาหารเที่ยงแบบง่ายๆที่จตุรัสนี้กันเลยค่ะ 


ฮอตดอกคนละอัน

รอบๆจตุรัสมีม้านั่ง ทานอาหารไปชมผู้คนเดินผ่านไปมา ทานเสร็จก็ไปเที่ยวกันต่อ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น