TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2554/07/30

2.สุสานหอย กระบี่




วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2554 เวลา 17:00น.
ไปสุสานหอยกันดีกว่า สุสานหอยอยู่ในบริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กม.


เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30 น. ถึง 17.00 น. ทุกวัน
พวกเรามาถึงเค้าก็จะปิดแล้ว เลยไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม


บ้างก็ว่าที่นี่คือ สุสานหอยร้อยปี บ้างก็ว่าเป็นสุสานหอย 75 ล้านปี บ้างก็ว่าไม่ถึงร้อยปี


แต่ที่แน่ๆ มันอยู่มาพร้อมกับคนชาวกระบี่ตั้งหลักปักฐานที่นี่เสียอีก


ทางเดินจะลื่นมากๆเพราะฝนเพิ่งหยุด ไม่ค่อยมีคนแล้วค่ะ


มีศาลาสำหรับชมวิวทะเลอันสวยงามด้านบน เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ


ตรงนี้ก็เป็นจุดชมวิวที่สวยมากเหมือนกัน


มะปรางวิ่งนำลงไปก่อน เจอฝูงชนหนาแน่นที่ด้านล่าง


เก็บภาพวิวสวยๆด้านบนก่อนดีกว่าค่ะ


เป็นความมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ระดับโลก เพราะสุสานหอยอายุหลายสิบล้านปีนี้มีเพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น คือ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (มลรัฐชิคาโก) ประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย


ยิ่งกว่านั้นสุสานหอยที่กระบี่นี้ยังเป็นเพียงแห่งเดียวในโลกที่อยู่ใน พื้นที่ชายฝั่งทะเล ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา





สุสานหอยคือฟอสซิลหอยหรือซากหอยตึกดำบรรพ์จำนวนมากที่ตายทับถมกันเป็นชั้น หนา จากข้อมูลเดิมเคยเชื่อกันว่ามีอายุถึง 75ล้านปี แต่ในปี พ.ศ. 2538 นักวิชาการกรมทรัพยากรธรณีได้พิสูจน์พบว่า มีอายุอยู่ในช่วง 30-40 ล้านปี


สุสานหอยพบบริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์เป็นแนวยาว กระจายกันอยู่ในระยะประมาณ 2 กม. มีสามจุดใหญ่ ๆ แต่จุดที่แนะนำให้ไปชม อยู่บริเวณหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีทางให้ลงไปดูได้สะดวก จะเห็นฟอสซิลรวมตัวเป็นแผ่นใหญ่หลายสิบ ตร.ม. มองดูคล้ายแผ่นคอนกรีต


ปัจจุบันฟอสซิลหอยบริเวณนี้กำลังพังทลายลงเรื่อย ๆ เนื่องจากถูกคลื่นลมกัดเซาะอยู่ตลอดเวลา
ประกอบกับการทรุดตัวของผืนทรายด้านล่าง

ถ้าเข้าไปดูใกล้ๆในแนวตัด จะเห็นหอยตัวเล็ก ๆ เกาะกันอยู่อย่างชัดเจน
ส่วนใหญ่เป็นพวกหอยขมน้ำจืด




แต่ถ้ามองใกล้ๆจะเห็นว่าตัวสุสานหอยทรุดโทรมมาก มีการเหยียบย่ำ ทำลายซึ่งก็คงจะค่อยๆพังทลายไปในไม่ช้า ใครไม่เคยไปขอให้เจียดเวลาไปดูบ้้างก็ดีนะคะ


ทางอุทยานแห่งชาติ จึงต้องกั้นโซ่เพื่อมิให้นักท่องเที่ยวลงไปเดินเล่นบนแผ่นฟอสซิล
อีกทั้งป้องกันการลื่นหกล้ม เนื่องจากแผ่นฟอสซิลบางจุดมีตะไคร่เกาะอยู่


แต่เดิมบริเวณ สุสานหอยแห่งนี้เคยเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขมขนาดราว 2 ซม.


ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด
ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลหล่อเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน


ซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นหอยขม มีขนาดยาวประมาณ 2 เซนติเมตร


กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 ซม.




เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวสูงขึ้น ซากฟอสซิลเหล่านี้จึงปรากฎให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล


บริเวณสุสานหอยยังมีตัวอย่างซากฟอสซิลของหอยทั้ง 3 แบบ
แบบที่ 1

แบบที่ 2

แบบที่ 3


ถ้าไปตอนเย็นๆอากาศจะดีมาก ลมเย็น เดินเล่นสบายไม่ร้อนเลย


นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมากันเป็นกลุ่มๆ


ภายในบริเวณสุสานหอยยังมี ร้านขายของที่ระลึกจำนวนมากคอยบริการนักท่องเที่ยว


เดินเล่นพัักใหญ่ได้เวลากลับกันแล้วค่ะ

มะปรางก็เดินนำไปก่อนอีกตามเคย...คุณป๋ากับแม่ตุ๊กช้าจัง...


มะปรางบอกว่าเหมือนส้มโอเลย


มีคนมาเขียนชื่อไว้ด้วย... ไม่ดีเลยเนอะ


แวะทานอาหารเย็นก่อนเข้าที่พัก


ร้านสะอาดดี ไม่มีคน(ช่วงนี้นักท่องเที่ยวน้อย)


อาหารอร่อยมาก ทานจนหมดเรียบทุกจาน(คงจะหิวจัดหน่ะ)


ก่อนกลับมะปรางวิ่งไปถ่ายรูป...บอกว่าเหมือนแมวลายหินอ่อนเลย..มันวิ่งหนีกล้องด้วยล่ะ


ทานอาหารอิ่มก็กลับ รร. พอจอดรถเสร็จ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก...ทั้งคืนเลย แต่ก็ดีนอนหลับสบายจ้า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น